2. ภาษาอังกฤษพื้นฐานเริ่มต้น: เรียนรู้ด้วยตัวเองได้เลย

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐานของผมเองนะครับ แบบที่ว่าเริ่มจากศูนย์เลยก็ว่าได้ ใครที่รู้สึกว่าภาษาอังกฤษเป็นยาขม หมั่นไส้ทุกครั้งที่เห็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ อย่าเพิ่งปิดหนีไปไหนนะครับ อยากให้อ่านเรื่องราวของผมก่อน เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจให้ฮึดสู้ขึ้นมาบ้าง

เริ่มต้นจากความกลัว

ยอมรับเลยว่าเมื่อก่อนผมเป็นคนที่กลัวภาษาอังกฤษมาก ๆ เห็นหนังสือเรียนภาษาอังกฤษเป็นต้องเบือนหน้าหนี ตอนเรียนก็จำใจต้องท่อง ๆ ไปให้สอบผ่าน แต่พอสอบเสร็จก็ลืมหมด (เศร้า) คือมันเหมือนเราไม่ได้เข้าใจจริง ๆ อ่ะครับ มันเลยไม่ติดอยู่ในหัวสักที แล้วพอโตขึ้นมาก็ยิ่งรู้สึกว่าภาษาอังกฤษมันไกลตัวเหลือเกิน ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี

จุดเปลี่ยนที่ทำให้ต้องเริ่ม

แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดจุดเปลี่ยนครับ คือผมอยากจะลองทำงานในบริษัทต่างชาติ เพราะเห็นว่าเงินเดือนดี สวัสดิการก็ดี แต่พอไปดูคุณสมบัติที่เขาต้องการเท่านั้นแหละ แทบจะทรุด ภาษาอังกฤษต้องคล่องแคล่ว! ตอนนั้นก็เลยคิดว่าไม่ได้แล้ว ต้องเริ่มเรียนภาษาอังกฤษอย่างจริงจังแล้ว

เริ่มจากศูนย์จริง ๆ

ผมเริ่มจากการปูพื้นฐานใหม่หมดเลยครับ ตั้งแต่ตัวอักษร A-Z การออกเสียง คำศัพท์ง่าย ๆ พวกคำทักทาย คำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ผมใช้แอปพลิเคชันเรียนภาษาอังกฤษหลายตัวเลยครับ แล้วก็ดูวิดีโอสอนภาษาอังกฤษใน YouTube เยอะมาก ๆ ดูซ้ำ ๆ จนกว่าจะเข้าใจ

51Talk เป็นหนึ่งในแอปที่ผมใช้บ่อยมากครับ ชอบตรงที่เขามีบทเรียนให้เลือกเยอะ แล้วก็มีครูเจ้าของภาษาคอยสอน ทำให้เราได้ฝึกออกเสียงสำเนียงที่ถูกต้อง

ฝึกฝนทุกวัน

ผมตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องฝึกภาษาอังกฤษทุกวัน อย่างน้อยวันละ 30 นาที จะดูหนัง ฟังเพลง อ่านข่าว หรือทำอะไรก็ได้ที่เกี่ยวข้องกับภาษาอังกฤษ ผมพยายามทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปเลย

ช่วงแรก ๆ ก็ท้อบ้างครับ เพราะมันยากจริง ๆ บางทีฟังไม่ออกเลยว่าเขาพูดอะไร แต่ผมก็บอกตัวเองว่าอย่าเพิ่งยอมแพ้ ต้องสู้ต่อไป ถ้าเราไม่เริ่มวันนี้ แล้วเราจะเริ่มวันไหน

หาเพื่อนร่วมทาง

ผมโชคดีที่ได้เจอเพื่อนร่วมงานคนหนึ่งที่เขาก็อยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษเหมือนกัน เราเลยชวนกันเรียนภาษาอังกฤษด้วยกัน ไปเรียนพิเศษด้วยกัน แล้วก็ฝึกพูดภาษาอังกฤษด้วยกันทุกวัน ช่วยกันแก้ไขข้อผิดพลาดให้กันและกัน มันทำให้การเรียนภาษาอังกฤษสนุกขึ้นเยอะเลยครับ

51Talk เขามีคอร์สเรียนกลุ่มด้วยนะครับ ถ้าใครอยากหาเพื่อนเรียนภาษาอังกฤษ ผมแนะนำเลย

ดูหนัง ฟังเพลง

ผมชอบดูหนัง ฟังเพลงภาษาอังกฤษมาก ๆ ครับ มันช่วยให้เราคุ้นเคยกับสำเนียง แล้วก็ได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ไปด้วย ผมชอบดูหนังที่มีซับไตเติ้ลภาษาอังกฤษ เพราะมันช่วยให้เราเข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่ายขึ้น แล้วก็ช่วยให้เราเรียนรู้คำศัพท์ได้เร็วขึ้นด้วย

สำหรับเพลง ผมชอบฟังเพลงช้า ๆ ที่เนื้อเพลงไม่ยากเกินไป แล้วก็พยายามแกะเนื้อเพลงออกมาดูว่าเขาร้องว่าอะไร แปลว่าอะไร

51Talk เขามีบทเรียนที่ใช้เพลงและภาพยนตร์ในการสอนด้วยนะครับ เป็นวิธีที่น่าสนใจมาก ๆ

อย่ากลัวที่จะพูด

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเรียนภาษาอังกฤษคือ อย่ากลัวที่จะพูด! ไม่ต้องกลัวว่าเราจะพูดผิด เพราะไม่มีใครที่พูดถูกตั้งแต่ครั้งแรกหรอกครับ ยิ่งเราพูดมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเก่งขึ้นเท่านั้น

ผมเริ่มจากการพูดกับตัวเองหน้ากระจกก่อนครับ พูดอะไรก็ได้ที่เราอยากจะพูด แล้วค่อย ๆ เริ่มพูดกับเพื่อนร่วมงาน หรือคนที่เราไว้ใจ แล้วก็ค่อย ๆ กล้าที่จะพูดกับคนแปลกหน้า

ไปเที่ยวต่างประเทศ

ผมตัดสินใจไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวครับ เพื่อที่จะบังคับตัวเองให้ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ผมไปเที่ยวสิงคโปร์ครับ เพราะเป็นประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ

ตอนแรก ๆ ก็ประหม่ามากครับ กลัวว่าจะสื่อสารกับเขาไม่รู้เรื่อง แต่พอเอาเข้าจริง ๆ มันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดครับ คนสิงคโปร์ใจดีมาก ๆ เขาพยายามที่จะเข้าใจเรา แล้วก็ช่วยเราทุกอย่าง

51Talk เขามีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับนักเดินทางด้วยนะครับ ถ้าใครมีแผนจะไปเที่ยวต่างประเทศ ผมแนะนำให้ลองเรียนดู

ผลลัพธ์ที่ได้

หลังจากที่ผมพยายามมาเป็นเวลาประมาณหนึ่งปี ภาษาอังกฤษของผมก็ดีขึ้นมาก ๆ ครับ ผมสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้คล่องแคล่วขึ้น อ่านข่าวภาษาอังกฤษได้เข้าใจมากขึ้น แล้วก็สามารถดูหนังฟังเพลงภาษาอังกฤษได้โดยไม่ต้องพึ่งซับไตเติ้ล

แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ผมได้งานในบริษัทต่างชาติสมใจอยากครับ! ตอนนี้ผมทำงานอย่างมีความสุขมาก ๆ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ ทุกวัน แล้วก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษในการทำงานจริง ๆ

51Talk ช่วยให้ผมพัฒนาภาษาอังกฤษได้เร็วขึ้นมาก ๆ ครับ ต้องขอบคุณจริง ๆ

บทสรุป

การเรียนภาษาอังกฤษอาจจะยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ครับ ขอแค่เรามีความตั้งใจจริง ขยันฝึกฝน แล้วก็อย่าท้อแท้ ผมเชื่อว่าทุกคนก็สามารถเก่งภาษาอังกฤษได้ครับ

เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ! สู้ ๆ!