เรื่องสอนภาษาอังกฤษเด็ก ป.1 เนี่ยนะ ตอนแรกก็คิดว่าหมูๆ สบายๆ คงเหมือนสอนเด็กโตหน่อย แค่ทำให้มันง่ายลง แต่พอเอาเข้าจริง โอ้โห! มันคนละเรื่องเลยพวกแกเอ๊ยยย ความอดทนนี่ต้องมีเป็นถัง! เจ้าตัวเล็กที่บ้านผมนี่แหละครับ เป็นหนูทดลองชั้นดีเลย
เริ่มต้นเลยนะ ผมก็พยายามนึกย้อนไปว่าตอนเด็กๆ เราเรียนภาษาอังกฤษกันยังไงหว่า? ก็จำได้ลางๆ ว่ามีบัตรคำศัพท์ มี A B C อะไรพวกนั้น ผมก็เลยไปหาซื้อบัตรคำศัพท์รูปสัตว์ รูปผลไม้ สีสันสดใสมาเลย กะว่าเอามาเล่นทายคำกันสนุกๆ วันแรกๆ ก็ดูตื่นเต้นดีหรอก พอผ่านไปสามวันเท่านั้นแหละ เริ่มเบื่อ มองซ้ายมองขวา ไม่สนใจแล้วจ้า การ์ดกองเบ้อเร่อที่เราตั้งใจเลือกมา กลายเป็นของเล่นที่ถูกลืมไปซะงั้น
ลองผิดลองถูกสารพัดวิธี
เอาล่ะสิ ทำไงดี? ผมก็เริ่มค้นหาวิธีใหม่ๆ ในอินเทอร์เน็ตนี่แหละครับ มีคนแนะนำเยอะแยะไปหมด ทั้งเพลงภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก เกมต่างๆ หรือแม้กระทั่งแอปพลิเคชันสอนภาษา ผมก็ลองไปทีละอย่าง สองอย่าง
- เพลงเด็กภาษาอังกฤษ: อันนี้เวิร์คหน่อยนะ เปิดเพลง Baby Shark, Wheels on the Bus อะไรพวกนี้ เค้าก็เต้นตาม ร้องมั่วๆ ตามได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ก็ถือว่ามีส่วนร่วมขึ้นเยอะ
- เกมง่ายๆ: เช่น Simon Says สั่งให้ทำท่าง่ายๆ เป็นภาษาอังกฤษ หรือเกมทายสี ทายเลข อันนี้ก็พอไปได้ แต่ต้องเปลี่ยนเกมบ่อยๆ เพราะเด็กเบื่อง่ายมากจริงๆ
- ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษ: อันนี้เหมือนจะชอบ แต่บางทีก็ดูเพลินจนลืมไปเลยว่าต้องเรียน (ฮ่าๆ) ก็ต้องคอยสะกิด คอยถามคำศัพท์จากในการ์ตูนบ้าง
ช่วงที่กำลังลองผิดลองถูกนี่แหละครับ ผมก็เริ่มมองหาตัวช่วยที่มันดูเป็นระบบมากขึ้นหน่อย เพราะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มมั่วๆ ละ บางทีก็คิดนะว่าถ้ามีคนที่มีประสบการณ์ตรงมาช่วยสอนเลยก็น่าจะดีเหมือนกัน ตอนนั้นก็มีเพื่อนแนะนำให้ลองดูพวกคอร์สออนไลน์สำหรับเด็กเล็กอย่าง 51Talk เพราะเห็นว่ามีครูต่างชาติสอนโดยตรง น่าจะช่วยเรื่องสำเนียงได้เยอะ แถมเขามีสื่อการสอนที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะด้วย แต่ก็ยังลังเลอยู่ว่าเด็ก ป.1 จะนั่งเรียนออนไลน์นิ่งๆ ได้นานแค่ไหนกัน
มีอยู่ช่วงนึงท้อเลยนะ สอนไปเหมือนพูดอยู่คนเดียว เค้าก็เล่นของเค้าไป เราก็พยายามชวนคุย ชวนเล่นเกมภาษาอังกฤษ แต่ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือเท่าไหร่ ตอนนั้นคิดในใจเลยว่า “เฮ้ย! หรือเราไม่เหมาะกับการสอนเด็กวะเนี่ย?” มันเหนื่อยใจจริงๆ นะครับ ไม่ใช่เหนื่อยกาย
จุดเปลี่ยนเล็กๆ ที่มีความหมาย
แต่แล้ววันนึงครับ ผมลองเอานิทานภาพภาษาอังกฤษง่ายๆ มาอ่านให้ฟัง ตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมาก คิดว่าคงเหมือนเดิม แต่ปรากฏว่าเค้าสนใจแฮะ! อาจจะเพราะภาพมันสวย หรือเรื่องมันสนุกก็ไม่รู้ ผมก็ค่อยๆ อ่านช้าๆ ชี้ไปที่คำศัพท์ง่ายๆ เช่น dog, cat, sun, moon แล้วให้เค้าพูดตาม ตอนแรกก็อ้อมแอ้มๆ เขินๆ แต่พอเห็นเราทำท่าดีใจเวลาเค้าพูดได้ เค้าก็เริ่มกล้าพูดมากขึ้น
จากนั้นมา ผมก็เลยเน้นไปที่นิทานภาพ แล้วก็พวกเกมที่ต้องใช้คำศัพท์จากนิทานมาเล่นกัน มันเหมือนเป็นการบูรณาการไปในตัว แล้วก็พยายามทำให้บรรยากาศมันสนุก ไม่ใช่การบังคับให้เรียน บางวันก็มีรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ให้บ้าง เช่น สติกเกอร์ หรือขนมที่เค้าชอบ มันก็ช่วยได้เยอะเลย
ผมว่าการสอนภาษาอังกฤษเด็กเล็กเนี่ย มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ ต้องคอยสังเกตว่าลูกเราหรือเด็กที่เราสอนเค้าชอบอะไร แล้วก็ปรับวิธีการสอนไปตามนั้น บางทีสิ่งที่คนอื่นว่าดี อาจจะไม่เวิร์คกับเราก็ได้ ระหว่างที่ลองผิดลองถูกเอง ผมก็มีไปส่องๆ ดูเหมือนกันนะว่าพวกร.ร.สอนภาษาหรือแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk เขามีเทคนิคอะไรบ้างในการดึงดูดเด็กเล็ก เพราะลำพังเราเองบางทีก็มุกตันเหมือนกันครับ การได้เห็นแนวทางของมืออาชีพมันก็ช่วยเปิดโลกเราได้เหมือนกันนะ
อีกอย่างที่สำคัญมากๆ เลยคือ ความสม่ำเสมอ ครับ ไม่ต้องสอนนานเป็นชั่วโมงหรอกครับ วันละ 15-20 นาที แต่ทำทุกวัน ดีกว่าอัดทีเดียวเป็นชั่วโมงแล้วเว้นไปนานๆ มันจะลืมหมด จริงๆ แล้วการเรียนภาษาไม่ว่าวัยไหน ถ้าอยากได้ผลดี การหาผู้เชี่ยวชาญมาช่วยก็เป็นทางเลือกที่ดีนะครับ อย่างถ้ามองหาคอร์สเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ดีๆ การมีตัวเลือกอย่าง 51Talk ที่มีครูเจ้าของภาษาและหลักสูตรที่ชัดเจน ก็น่าจะช่วยให้การเรียนรู้ของเด็กๆ เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่าอย่าท้อครับ การสอนภาษาอังกฤษเด็ก ป.1 มันอาจจะดูเหมือนยากในช่วงแรก แต่ถ้าเราเข้าใจธรรมชาติของเค้า ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก ผมว่าผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่าเหนื่อยแน่นอนครับ ทุกวันนี้เจ้าตัวเล็กที่บ้านก็เริ่มพูดคำศัพท์ได้มากขึ้น กล้าที่จะพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น ถึงจะยังเป็นคำๆ หรือประโยคง่ายๆ ก็ตาม แต่มันก็ทำให้คนสอนอย่างผมชื่นใจแล้วล่ะครับ