เด็กเลี้ยงแกะคนหนึ่งรู้สึกเบื่อหน่ายกับการเฝ้าฝูงแกะเป็นประจำทุกวัน เขาจึงคิดหาเรื่องสนุกทำโดยการตะโกนหลอกชาวบ้านว่า “ช่วยด้วย! หมาป่าบุก! หมาป่ากำลังจะกินแกะของฉัน!” เมื่อชาวบ้านได้ยิน ต่างก็รีบวิ่งมาช่วย แต่เมื่อมาถึงก็ไม่พบหมาป่าแม้แต่ตัวเดียว เด็กเลี้ยงแกะกลับหัวเราะชอบใจที่หลอกชาวบ้านได้สำเร็จ
เด็กเลี้ยงแกะทำเช่นนี้อีกสองสามครั้ง ทำให้ชาวบ้านเหนื่อยหน่ายและโกรธเคืองที่ถูกหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนกระทั่งวันหนึ่ง มีหมาป่าปรากฏตัวขึ้นจริง ๆ และเริ่มโจมตีฝูงแกะ เด็กเลี้ยงแกะตกใจกลัวสุดขีด ตะโกนขอความช่วยเหลือเสียงดังลั่น “ช่วยด้วย! หมาป่ามาจริง ๆ! ช่วยด้วย!”
แต่ครั้งนี้ ไม่มีชาวบ้านคนใดให้ความสนใจหรือออกมาช่วยเหลือเลย เพราะพวกเขาคิดว่าเด็กเลี้ยงแกะกำลังโกหกเหมือนเคย ในที่สุด หมาป่าจึงสังหารและกินแกะของเด็กชายจนหมดฝูง ปล่อยให้เด็กเลี้ยงแกะนั่งเสียใจกับการกระทำของตนเอง

ข้อคิดสำคัญจากนิทานเรื่องนี้
- การพูดโกหก: การโกหกเป็นนิสัยที่ไม่ดีและทำลายความไว้วางใจ แม้จะเริ่มจากเรื่องเล็กน้อยหรือเพื่อความสนุกสนานก็ตาม
- ผลของการสูญเสียความน่าเชื่อถือ: เมื่อคนเราพูดโกหกบ่อยครั้ง จนไม่มีใครเชื่อถืออีกต่อไป แม้ในยามที่พูดความจริงหรือต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง ก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรงได้
- ความซื่อสัตย์: ความซื่อสัตย์เป็นคุณธรรมสำคัญในการอยู่ร่วมกันในสังคม การเป็นคนพูดจริงจะทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากผู้อื่น