สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลย กับการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี บอกเลยว่าตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากจะเก่งภาษาอังกฤษขึ้นมาบ้าง จะได้ดูหนังฟังเพลงรู้เรื่องขึ้น หรือเผื่อมีโอกาสดีๆ เข้ามาในชีวิต แต่ครั้นจะให้ไปเสียเงินลงคอร์สแพงๆ ตอนนั้นก็ยังไม่พร้อมเท่าไหร่ เลยคิดว่า เอ้า! ลองหาแบบฟรีๆ ในเน็ตดูก่อนแล้วกัน
จุดเริ่มต้นการงมเข็มในมหาสมุทรออนไลน์
พอตัดสินใจได้แบบนั้น ผมก็เริ่มเลยครับ เปิดคอมแล้วก็พิมพ์คำว่า “เรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี” ลงไปในกูเกิล โอ้โห! เท่านั้นแหละครับคุณผู้ชม ผลลัพธ์ที่ได้นี่มันเยอะมาก เยอะจนตาลาย เลือกไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เว็บนั้นก็ดี เว็บนี้ก็น่าสนใจ แอปพลิเคชันอีกเป็นร้อย คือมันเยอะจนท้อตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลยด้วยซ้ำ
ลองผิดลองถูก สไตล์คนงบน้อย
แต่ไหนๆ ก็ตั้งใจแล้ว ผมก็เลยกัดฟันลองไปทีละอย่างสองอย่างครับ
- เว็บสอนภาษาทั่วไป: บางเว็บก็มีบทเรียนให้อ่าน มีแบบฝึกหัดให้ทำ ก็พอได้อยู่นะครับ แต่บางเว็บก็เนื้อหาดูเก่าไปหน่อย หรือไม่ก็เน้นแกรมมาร์จ๋าจนน่าเบื่อไปเลยก็มี
- แอปพลิเคชันมือถือ: อันนี้ก็ลองหลายตัวเลยครับ บางแอปก็สนุกดีนะ มีเกมให้เล่น จำศัพท์เป็นภาพอะไรแบบนี้ แต่ส่วนตัวผมรู้สึกว่ามันยังไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่ เหมือนเล่นเพลินๆ มากกว่าจะได้ความรู้จริงๆ จังๆ
- คลิปวิดีโอสอนภาษา: ในยูทูบนี่ก็เยอะมาก มีทั้งคนไทยสอน ทั้งฝรั่งสอน ผมก็ลองดูไปเรื่อยๆ บางช่องก็สอนดี เข้าใจง่าย แต่บางช่องก็พูดเร็วไป ฟังไม่ทัน หรือไม่ก็เน้นขายของซะเยอะ
ช่วงแรกๆ นี่เหมือนคนตาบอดคลำทางเลยครับ ลองอันนู้นที อันนี้ที เสียเวลาไปพอสมควรเลย กว่าจะเริ่มจับทางได้ว่าแบบไหนที่มันเหมาะกับเราจริงๆ
ในที่สุดก็เจอแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
หลังจากที่ลองผิดลองถูกมาสักพักใหญ่ๆ ผมก็เริ่มเจอแหล่งเรียนรู้ที่รู้สึกว่า “เออ! อันนี้แหละใช่เลย” ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผมใช้แล้วเวิร์คจริงๆ จะเป็นประมาณนี้ครับ
- ช่องยูทูบของเจ้าของภาษาโดยตรง: อันนี้ผมว่าดีมากเลยนะ เพราะเราได้ฟังสำเนียงจริงๆ ของเขา ได้เห็นวิธีที่เขาใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน ผมจะเลือกช่องที่เขาสอนแบบสบายๆ ไม่เครียด อธิบายเข้าใจง่าย มีตัวอย่างประกอบเยอะๆ แรกๆ อาจจะฟังยากหน่อย แต่พอเริ่มชินหูแล้วมันจะช่วยเรื่องทักษะการฟังได้เยอะมาก
- เว็บไซต์ที่มีบทความสั้นๆ หรือข่าวให้อ่าน: ผมจะหาเว็บที่มีบทความภาษาอังกฤษง่ายๆ ไม่ยาวมากนัก พร้อมกับมีคำศัพท์สำคัญๆ บอกไว้ด้วย พออ่านจบก็อาจจะมีแบบทดสอบความเข้าใจเล็กๆ น้อยๆ อันนี้ช่วยเรื่องการอ่านจับใจความและเพิ่มคลังคำศัพท์ได้ดีเลยครับ
- กลุ่มฝึกภาษาในโซเชียลมีเดีย: อันนี้อาจจะต้องกล้าหน่อย คือลองเข้าไปจอยกลุ่มที่มีคนอยากฝึกภาษาเหมือนกัน บางทีก็มีคนโพสต์ถาม-ตอบ หรือนัดกันคุยเป็นภาษาอังกฤษผ่านวิดีโอคอลล์บ้าง ถึงจะเขินๆ หน่อย แต่ก็ได้ลองใช้จริงครับ
เคล็ดลับส่วนตัวของผมคือ ผมจะพยายามทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ได้ตั้งเป้าว่าต้องเรียนวันละกี่ชั่วโมงเป๊ะๆ แต่จะพยายามหาเวลาว่างเล็กๆ น้อยๆ มาดูคลิปบ้าง อ่านบทความบ้าง หรือแม้แต่ตอนฟังเพลงสากล ก็จะพยายามดูเนื้อเพลงตามไปด้วย มันช่วยได้เยอะเลยครับ
อุปสรรคที่เจอและวิธีผ่านมันไป
แน่นอนว่าการเรียนด้วยตัวเองแบบฟรีๆ มันก็มีอุปสรรคเหมือนกันครับ อย่างแรกเลยคือ ความขี้เกียจ ฮ่าๆๆ บางวันก็เหนื่อย ไม่อยากทำอะไรเลย หรือบางทีก็รู้สึกว่าเรียนไปตั้งนานทำไมไม่เห็นเก่งขึ้นสักที มันก็ท้อใจเหมือนกันนะ
วิธีที่ผมใช้จัดการกับตัวเองก็คือ พยายามหาแรงบันดาลใจครับ อาจจะตั้งเป้าหมายเล็กๆ เช่น สัปดาห์นี้จะจำศัพท์ใหม่ให้ได้ 10 คำ หรือจะลองดูซีรีส์ฝรั่งแบบเปิดซับอังกฤษดูสักตอน หรือบางทีก็แค่นึกถึงเหตุผลที่เราอยากเก่งภาษาอังกฤษตั้งแต่แรก มันก็ช่วยให้มีกำลังใจขึ้นมาได้บ้าง
อีกอย่างคือ ความสม่ำเสมอ สำคัญมากครับ ถึงจะทำวันละนิดวันละหน่อย แต่ถ้าทำทุกวัน มันเห็นผลกว่าการหักโหมทำทีเดียวแล้วหายไปนานๆ แน่นอน
ผลลัพธ์ที่ได้จากการพยายาม
หลังจากที่ผมพยายามเรียนด้วยตัวเองแบบนี้มาเรื่อยๆ สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ ผมฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องมากขึ้นเยอะเลยครับ จากเมื่อก่อนที่ต้องคอยอ่านซับอย่างเดียว เดี๋ยวนี้ดูหนังฟังเพลงก็เริ่มเข้าใจเนื้อหาได้โดยไม่ต้องพึ่งซับตลอดเวลาแล้ว มันรู้สึกดีมากๆ เลยนะ
เรื่องการพูดก็ดีขึ้นครับ ถึงจะยังไม่คล่องปรื๋อเหมือนเจ้าของภาษา แต่ก็กล้าที่จะพูดมากขึ้น ไม่กลัวผิดกลัวถูกเหมือนเมื่อก่อนแล้ว คำศัพท์ในหัวก็มีเยอะขึ้น ทำให้พอจะสื่อสารเรื่องทั่วไปได้บ้าง
โดยรวมแล้ว ผมว่ามันเป็นการลงทุนที่ไม่เสียเปล่าเลยครับ ถึงแม้จะไม่ได้เสียเงิน แต่เราก็ลงทุนด้วยเวลาและความพยายาม ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่าจริงๆ
อยากฝากถึงคนที่กำลังสนใจ
สำหรับใครที่กำลังคิดอยากจะเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์ฟรี ผมอยากจะบอกว่า ลองเลยครับ! ของฟรีดีๆ มีอยู่จริง อยู่ที่ว่าเราจะค้นหามันเจอหรือเปล่า และที่สำคัญกว่านั้นคือ เราจะตั้งใจกับมันแค่ไหน
อย่ากลัวที่จะเริ่ม อย่าท้อถอยง่ายๆ การเรียนภาษาต้องใช้เวลาและความอดทน ไม่มีทางลัดครับ แต่ถ้าเรามีความสม่ำเสมอและสนุกไปกับมัน ผมเชื่อว่าทุกคนก็สามารถเก่งภาษาอังกฤษขึ้นได้อย่างแน่นอน สู้ๆ ครับ!
