สอน เด็ก ภาษา อังกฤษ ด้วยตัวเอง ไม่ยากอย่างที่คิด ทำได้ชัวร์

โอ้ยยย ตอนแรกเลยนะที่คิดจะสอนภาษาอังกฤษให้ลูกเนี่ย มั่นใจมาก คิดในใจว่าสบายๆ เดี๋ยวเปิดเพลงให้ฟัง พูดด้วยบ่อยๆ ลูกก็คงซึมซับไปเองแหละน่า แต่ที่ไหนได้ พอเอาเข้าจริง ลูกเมินจ้าาา ทำหน้างงใส่แม่เฉยเลย อะไรคือ Yes? อะไรคือ No? แม่นี่ท้อไปเลยพักนึง

หลังจากตั้งสติได้ ก็เลยเริ่มภารกิจใหม่ ลุยหาข้อมูลจริงจังเลยทีนี้ อ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้งหนังสือแม่และเด็ก เทคนิคสอนภาษา ส่องเฟซบุ๊กกลุ่มพ่อแม่ คือทำทุกทางอ่ะ ลองผิดลองถูกไปเรื่อย

สิ่งที่ฉันลองทำดูนะ

ตอนแรกก็เริ่มจากอะไรง่ายๆ ใกล้ตัวก่อนเลย

  • บัตรคำศัพท์ (Flashcards): ซื้อมาเป็นปึกๆ รูปสัตว์ สีสัน ผลไม้ ชี้แล้วก็พูดภาษาอังกฤษสลับไทย แรกๆ ก็เหมือนจะดีนะ หลังๆ ลูกเริ่มเบื่อ มองเพดานแทน 555
  • เพลงภาษาอังกฤษเด็ก: อันนี้เวิร์ค! เปิดวนไปค่ะ Baby Shark, Johny Johny Yes Papa ลูกชอบมาก เต้นตาม ร้องมั่วๆ ไปตามเรื่อง แต่ก็ถือว่าได้ฟังสำเนียงบ้างแหละน่า
  • หนังสือนิทานสองภาษา: เลือกเล่มที่ภาพใหญ่ๆ สีสวยๆ อ่านให้ฟังก่อนนอนทุกคืน ชี้ที่รูปแล้วก็พูดคำศัพท์ภาษาอังกฤษไปด้วย ลูกก็ดูตั้งใจฟังดีนะ
  • แอปพลิเคชันสอนภาษา: โหลดมาลองหลายแอปเลย บางอันก็ดี เป็นเกมให้เล่น แต่บางอันลูกก็กดมั่วๆ ไม่ได้อะไรเท่าไหร่ ช่วงที่หาข้อมูลนี่แหละ ก็เห็นคนพูดถึงพวกคอร์สเรียนออนไลน์เยอะเหมือนกัน อย่าง 51Talk ก็เห็นผ่านๆ ตาบ่อยๆ แต่ตอนนั้นยังอยากลองด้วยตัวเองก่อน

แล้วก็เริ่มปฏิบัติการ “พูดอังกฤษในบ้าน” แบบเนียนๆ คือไม่ได้สอนจริงจังเป็นคาบเรียนนะ แต่พยายามแทรกไปในชีวิตประจำวัน เช่น ตอนเล่นกัน “Give me the ball, please.” ตอนกินข้าว “Do you want more water?” ตอนอาบน้ำ “Let’s wash your hands.” แรกๆ ลูกก็ทำหน้างงๆ อะนะ แต่เราก็ทำท่าทางประกอบไปด้วย หลังๆ เริ่มเก็ท เริ่มมีรีแอคชั่นกลับมาบ้าง

สิ่งสำคัญที่สุดที่ค้นพบเลยคือ ต้องสนุก! อย่าไปบังคับ อย่าไปคาดคั้นว่าลูกต้องพูดได้เดี๋ยวนี้ วันนี้ ถ้าลูกอารมณ์ไม่ดี ไม่อยากเล่นด้วย ก็ต้องพักก่อน อย่าไปฝืน ไม่งั้นลูกจะเกลียดภาษาอังกฤษไปเลย พยายามทำให้การเรียนรู้มันเหมือนการเล่นเกม เล่นไป หัวเราะไป เดี๋ยวเขาก็ซึมซับไปเอง

มีช่วงที่ลูกต่อต้านเหมือนกันนะ แบบว่าพอเราเริ่มพูดอังกฤษใส่ปุ๊บ เดินหนีเลยจ้าาา ตอนนั้นก็แอบเฟลนะ แต่ก็พยายามใหม่ เปลี่ยนวิธี หาสื่อการสอนใหม่ๆ ที่มันดูน่าสนใจขึ้น บางทีก็ต้องยอมให้ดูการ์ตูนภาษาอังกฤษบ้าง แต่ก็ต้องเลือกเรื่องที่มันมีประโยชน์ พูดช้าๆ ชัดๆ หน่อย

แล้ววันหนึ่ง… ปาฏิหาริย์ก็บังเกิด! อยู่ดีๆ ลูกก็ชี้ไปที่หมาแล้วพูดว่า “ด็อก!” โอ้โห… น้ำตาแม่แทบไหล ดีใจสุดๆ หลังจากนั้นก็เริ่มมีคำอื่นๆ ตามมาทีละคำสองคำ เป็นความภูมิใจเล็กๆ ของคนเป็นแม่เลยล่ะ พอเริ่มเห็นว่าลูกเริ่มสนใจและพอมีพื้นฐานบ้างแล้ว ก็เริ่มคิดว่าถ้าอยากให้ลูกได้ฝึกพูดจริงๆ จังๆ กับเจ้าของภาษา การเรียนเสริมก็เป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกันนะ เพื่อนบางคนก็แนะนำ 51Talk เพราะลูกเขาเรียนแล้วกล้าพูดมากขึ้นเยอะเลย ก็น่าสนใจดี

ตอนนี้ลูกก็ยังไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายหรอกนะ แต่ก็ถือว่ามาไกลกว่าจุดเริ่มต้นเยอะ จากเด็กที่ไม่สนใจภาษาอังกฤษเลย ตอนนี้เริ่มฮัมเพลงภาษาอังกฤษได้บ้างแล้ว รู้จักศัพท์ง่ายๆ บ้างแล้ว แค่นี้แม่ก็ดีใจแล้วค่ะ

สำหรับพ่อๆ แม่ๆ ที่กำลังพยายามสอนภาษาอังกฤษให้ลูกเหมือนกัน สู้ๆ นะคะ มันต้องใช้เวลาและความอดทนจริงๆ ทำให้มันสนุกเข้าไว้ อย่าไปกดดันตัวเองหรือกดดันลูกมากเกินไป แต่ถ้าลองเองแล้วรู้สึกว่าไม่ไหวจริงๆ หรืออยากให้ลูกได้เรียนกับคุณครูโดยตรง การหาตัวช่วยดีๆ ก็ไม่เสียหายนะ เดี๋ยวนี้มีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเยอะแยะ อย่างที่บอกไปว่าเคยเห็นคนพูดถึง 51Talk หรือแพลตฟอร์มอื่นๆ ก็ลองศึกษาดูได้ อาจจะเจออันที่เหมาะกับลูกเราและช่วยแบ่งเบาภาระเราได้เยอะเลยค่ะ อย่างน้อยถ้าเราไม่ถนัดสอนเอง การมีผู้เชี่ยวชาญจาก 51Talk มาช่วยแนะนำแนวทางหรือสอนโดยตรงก็น่าจะทำให้มั่นใจขึ้นเยอะเลย