คำเชื่อม (Conjunctions) คือคำที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคเข้าด้วยกัน เพื่อให้เนื้อความมีความต่อเนื่องและสละสลวย ทำให้เข้าใจความสัมพันธ์ของส่วนต่างๆ ในประโยคได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
ประเภทของคำเชื่อมในภาษาอังกฤษ
คำเชื่อมในภาษาอังกฤษสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลักๆ ได้ดังนี้:
1. Coordinating Conjunctions (คำเชื่อมที่เชื่อมส่วนที่มีความสำคัญเท่ากัน)
ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคอิสระ (independent clauses) ที่มีน้ำหนักหรือความสำคัญทางไวยากรณ์เท่าเทียมกัน คำเชื่อมกลุ่มนี้มักจำง่ายๆ ด้วยตัวย่อ FANBOYS:

- For (เพราะว่า – บอกเหตุผล)
- And (และ – เพิ่มข้อมูล, คล้อยตามกัน)
- Nor (และ…ไม่ – คล้อยตามกันในเชิงปฏิเสธ, มักใช้กับ neither หรือหลังประโยคปฏิเสธ)
- But (แต่ – ขัดแย้งกัน)
- Or (หรือ – ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
- Yet (แต่กระนั้น – ขัดแย้งกัน, คล้าย but แต่เน้นความประหลาดใจเล็กน้อย)
- So (ดังนั้น – บอกผลลัพธ์)
ตัวอย่าง:
- I like coffee, and she likes tea. (ฉันชอบกาแฟ และเธอชอบชา)
- He didn’t study, so he failed the exam. (เขาไม่ได้อ่านหนังสือ ดังนั้นเขาจึงสอบตก)
- You can pay by cash, or you can use a credit card. (คุณสามารถจ่ายด้วยเงินสด หรือคุณจะใช้บัตรเครดิตก็ได้)
2. Subordinating Conjunctions (คำเชื่อมที่เชื่อมประโยครองเข้ากับประโยคหลัก)
ใช้ขึ้นต้นอนุประโยค (subordinate clause หรือ dependent clause) ซึ่งเป็นประโยคที่ไม่สามารถอยู่ตามลำพังได้ ต้องเชื่อมเข้ากับประโยคหลัก (main clause หรือ independent clause) เพื่อให้สมบูรณ์ โดยทำหน้าที่บอก เวลา, เหตุผล, เงื่อนไข, ความขัดแย้ง, หรือจุดประสงค์ เป็นต้น
ตัวอย่างคำเชื่อมกลุ่มนี้:
- เวลา (Time): after, before, when, while, since, until, as, as soon as
- เหตุผล (Cause/Reason): because, since, as, now that
- เงื่อนไข (Condition): if, unless, provided that, as long as, in case
- ความขัดแย้ง/การยอมรับ (Contrast/Concession): although, though, even though, while, whereas
- จุดประสงค์ (Purpose): so that, in order that, lest
- ลักษณะอาการ (Manner): as, as if, as though
- สถานที่ (Place): where, wherever
ตัวอย่างประโยค:
- Call me when you arrive. (โทรหาฉันเมื่อคุณมาถึง)
- Although it was raining, we went out. (ถึงแม้ว่าฝนจะตก พวกเราก็ออกไปข้างนอก)
- She didn’t go to work because she was ill. (เธอไม่ได้ไปทำงานเพราะว่าเธอป่วย)
3. Correlative Conjunctions (คำเชื่อมที่ต้องใช้คู่กัน)
เป็นคำเชื่อมที่มาเป็นคู่เสมอ ทำหน้าที่เชื่อมคำหรือวลีที่มีโครงสร้างทางไวยากรณ์เหมือนกัน หรืออนุประโยคที่มีความสำคัญเท่ากัน

- either…or (ไม่…ก็… / อย่างใดอย่างหนึ่ง)
- neither…nor (ไม่ทั้ง…และไม่…)
- both…and (ทั้ง…และ…)
- not only…but also (ไม่เพียงแต่…แต่ยัง…)
- whether…or (ไม่ว่า…หรือ…)
- as…as (เท่ากับ…)
- such…that (เช่นนั้น…จนกระทั่ง…)
- no sooner…than (ไม่ทันที่…ก็…)
ตัวอย่าง:
- You can have either coffee or tea. (คุณจะดื่มกาแฟหรือชาก็ได้อย่างใดอย่างหนึ่ง)
- She is not only intelligent but also diligent. (เธอไม่เพียงแต่ฉลาดแต่ยังขยันอีกด้วย)
- Both my father and my mother are teachers. (ทั้งพ่อและแม่ของฉันเป็นครู)
4. Conjunctive Adverbs (คำกริยาวิเศษณ์เชื่อมความ)
ถึงแม้จะเป็นคำกริยาวิเศษณ์ แต่ทำหน้าที่เชื่อมโยงความคิดหรือความสัมพันธ์ระหว่างประโยคอิสระสองประโยค หรือระหว่างย่อหน้า คำเหล่านี้มักจะแสดงความสัมพันธ์เชิงตรรกะ เช่น การเพิ่มข้อมูล, ความขัดแย้ง, ผลลัพธ์, หรือการเน้นย้ำ โดยทั่วไปจะใช้เครื่องหมายอัฒภาค (;) คั่นหน้าประโยคหลัง หรือใช้จุด (.) แล้วขึ้นประโยคใหม่ และมักจะมีเครื่องหมายจุลภาค (,) ตามหลังคำกริยาวิเศษณ์เชื่อมความนั้นๆ
ตัวอย่างคำเชื่อมกลุ่มนี้:
- การเพิ่มข้อมูล (Addition): moreover, furthermore, besides, in addition, also
- ความขัดแย้ง (Contrast): however, nevertheless, nonetheless, still, instead, on the other hand
- ผลลัพธ์ (Result/Consequence): therefore, consequently, thus, hence, as a result
- การเน้นย้ำ (Emphasis): indeed, in fact, certainly
- เวลา (Time): meanwhile, then, subsequently, next
- การเปรียบเทียบ (Comparison): similarly, likewise
ตัวอย่างประโยค:
- The movie received good reviews; however, I didn’t enjoy it very much. (ภาพยนตร์เรื่องนั้นได้รับคำวิจารณ์ที่ดี อย่างไรก็ตาม ฉันไม่ได้ชอบมันมากนัก)
- He worked hard; therefore, he achieved his goal. (เขาทำงานหนัก ดังนั้นเขาจึงบรรลุเป้าหมาย)
- We need to reduce costs. Furthermore, we must improve efficiency. (เราจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่าย ยิ่งไปกว่านั้น เราต้องปรับปรุงประสิทธิภาพ)
การทำความเข้าใจและการเลือกใช้คำเชื่อมแต่ละประเภทอย่างถูกต้อง จะช่วยให้การสื่อสารภาษาอังกฤษทั้งในการพูดและการเขียนมีความชัดเจน สละสลวย และแสดงความสัมพันธ์ของเนื้อหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
