สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลย เรื่องของเรื่องคือการเป็นแม่บ้านที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษค่ะ ใช่แล้ว ฟังไม่ผิดหรอก! ตอนแรกก็คิดเหมือนกันว่างานบ้านมันจะไปเกี่ยวอะไรกับภาษาต่างประเทศได้ยังไง แต่พอเจอเข้ากับตัวเท่านั้นแหละ โอ้โหเลย
เรื่องมันเริ่มจากฉันได้งานทำความสะอาดที่คอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งลูกบ้านส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติค่ะ แรกๆ นี่ใบ้กินเลยนะ เวลาเขาจะสื่อสารอะไรด้วย เราก็เกาหัวแกรกๆ ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ไปตามเรื่องตามราว บางทีเขาสั่งงานง่ายๆ อย่างให้ช่วยดูดฝุ่นพรม หรือให้ช่วยเช็ดกระจก เราก็เดาทางไม่ถูกเลยว่าจะให้ทำตรงไหนก่อนหลัง มันอึดอัดมากเลยนะ เหมือนทำงานได้ไม่เต็มที่
จุดเริ่มต้นการฝึกฝนแบบบ้านๆ
ทีนี้ก็เลยคิดว่าไม่ได้การละ ต้องทำอะไรสักอย่าง! เลยเริ่มจากวิธีง่ายๆ ที่สุดก่อนเลยค่ะ
- จดศัพท์: พกสมุดเล่มเล็กๆ ติดตัวเลยค่ะ เจอศัพท์อะไรที่คิดว่าเกี่ยกับงานบ้าน หรือได้ยินเขาพูดบ่อยๆ ก็จดไว้ เช่น vacuum (ดูดฝุ่น), mop (ถูพื้น), clean the window (เช็ดหน้าต่าง), take out the trash (เอาขยะไปทิ้ง) อะไรทำนองนี้
- ใช้ท่าทางประกอบ: อันนี้ช่วยได้เยอะมากในช่วงแรกๆ เวลาไม่เข้าใจ หรืออยากจะบอกอะไร ก็ใช้ภาษามือช่วยเอา พูดไปพลางทำท่าไปพลาง เขาก็พอจะเดาได้บ้าง เราก็พอจะเข้าใจเขาบ้าง
- แอบฟังและเลียนแบบ: เวลาเขาคุยกันเอง (ถ้าเป็นเรื่องทั่วไปที่เราพอจะจับใจความได้) หรือเวลาเขาสั่งงานคนอื่น ก็จะพยายามฟังว่าเขาใช้คำว่าอะไร รูปประโยคแบบไหน แล้วก็ลองเอามาปรับใช้ดูบ้าง ผิดบ้างถูกบ้างก็ไม่เป็นไร ถือว่าฝึกไปในตัว
- ถามตรงๆ: พอเริ่มกล้าขึ้นหน่อย ก็เริ่มถามเลยค่ะ “Sorry, what do you mean?” (ขอโทษนะคะ หมายความว่ายังไง) หรือ “Can you say that again?” (พูดอีกครั้งได้ไหม) แรกๆ ก็เขินนะ กลัวเขาจะรำคาญ แต่ส่วนใหญ่เขาก็ใจดี อธิบายให้ฟังใหม่ช้าๆ
จำได้เลยว่ามีครั้งนึง เขาบอกว่า “The bathroom needs a good scrub.” ตอนนั้นคำว่า “scrub” นี่ไม่คุ้นเลยค่ะ ก็ได้แต่ยืนงงๆ จนเขาต้องทำท่าขัดแรงๆ ให้ดู ถึงบางอ้อเลยว่า อ๋อ หมายถึงให้ขัดห้องน้ำแบบเน้นๆ นั่นเอง หลังจากนั้นก็จำศัพท์คำนี้แม่นเลย
จากติดๆ ขัดๆ สู่การสื่อสารที่คล่องขึ้น (นิดนึง)
ช่วงแรกๆ ก็ทุลักทุเลน่าดูค่ะ พูดไปก็ติดๆ ขัดๆ เรียงประโยคก็ผิดแกรมมาร์ไปหมด แต่ก็พยายามพูดออกไปก่อน ไม่กลัวผิด เพราะถ้ามัวแต่กลัวก็ไม่ได้เริ่มสักที พอเราเริ่มสื่อสารกับเขาได้บ้างนิดหน่อยนะคะ รู้สึกเลยว่าการทำงานมันง่ายขึ้นเยอะ จากที่เคยต้องเดาใจกันไปมา ก็เริ่มเข้าใจความต้องการของเขาได้ชัดเจนขึ้น เขาก็ดูพอใจกับงานเรามากขึ้นด้วย
มีอยู่วันนึง ลูกบ้านคนหนึ่งเดินมาบอกว่า “Thank you, the room is sparkling clean!” ตอนนั้นคือใจฟูมากเลยค่ะ คำว่า “sparkling clean” นี่มันแบบ… โอ้โห สะอาดวิ้งๆ เลยนะ! เป็นกำลังใจที่ดีมากๆ เลยค่ะ
ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้เก่งกาจอะไรมากมายนะคะ ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ แต่ก็พอจะสื่อสารเรื่องงานในชีวิตประจำวันได้แล้ว ไม่ต้องกลัวฝรั่งเหมือนเมื่อก่อนแล้วค่ะ กลายเป็นว่าการได้ฝึกภาษาอังกฤษจากงานแม่บ้านนี่แหละ มันเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปด้วย ใครจะไปคิดล่ะเนอะ!
ก็อยากจะบอกทุกคนที่อาจจะกำลังเจอสถานการณ์คล้ายๆ กัน หรืออยากจะเริ่มเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ว่าอย่าท้อนะคะ เริ่มจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวเรานี่แหละค่ะ ค่อยๆ ฝึกไปทีละนิด เดี๋ยวก็ดีขึ้นเอง สู้ๆ ค่ะ!
