สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ตรงของผมเลย กับการพยายามทำความเข้าใจคำว่า “ผู้พิพากษา” ในภาษาอังกฤษเนี่ยแหละครับ คือเรื่องของเรื่องมันเริ่มมาจากวันก่อนผมนั่งดูซีรีส์ฝรั่งแนวกฎหมายอยู่ แล้วก็เอ๊ะ! ทำไมบางทีเขาเรียก “Judge” บางทีก็มีคำว่า “Justice” โผล่มาอีก แล้วมันต่างกันยังไงวะ? ตอนแรกก็คิดในใจว่ามันก็คงเหมือนๆ กันแหละมั้ง แต่พอเจอหลายๆ ครั้งเข้า ชักจะเริ่มสงสัยแล้วครับ
ลงมือค้นคว้าตามประสาคนอยากรู้
พอความสงสัยมันบังเกิด ผมก็อยู่เฉยไม่ได้สิครับ ก็เลยต้องเริ่มปฏิบัติการค้นหาความจริงกันหน่อย ผมเริ่มจากง่ายๆ ก่อนเลย คือเปิดดิกชันนารีออนไลน์ดู พิมพ์คำว่า “ผู้พิพากษา” เข้าไป มันก็ขึ้นมาทั้ง “Judge” ทั้ง “Justice” นั่นแหละครับทีนี้เอาไงต่อล่ะ ผมก็เลยลองไปค้นหาในพวกเว็บบอร์ดหรือบทความที่เขาอธิบายเรื่องนี้โดยเฉพาะเลยครับ
ผมนั่งอ่านอยู่พักใหญ่เลยครับ พยายามทำความเข้าใจว่าไอ้เจ้าสองคำนี้มันใช้ต่างกันในบริบทไหนบ้าง ค่อยๆ ปะติดปะต่อข้อมูลไปเรื่อยๆ จากหลายๆ แหล่ง ก็เริ่มจะเห็นภาพลางๆ ขึ้นมาบ้างแล้วครับ
สิ่งที่ผมค้นพบจากการงมอยู่พักใหญ่:
- Judge (จัดจ์): คำนี้ดูเหมือนจะเป็นคำที่ใช้เรียกผู้พิพากษาแบบทั่วๆ ไปเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ หรือศาลไหนๆ ก็ตามที่ทำหน้าที่ตัดสินคดีความ คือเป็นคำกลางๆ ที่คนส่วนใหญ่เข้าใจได้ทันที
- Justice (จัสทิส): ส่วนคำนี้มันจะมีความเฉพาะเจาะจงขึ้นมาหน่อยครับ จากที่ผมอ่านๆ ดู เหมือนจะใช้เรียกผู้พิพากษาในศาลที่สูงขึ้นไปอีกระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้พิพากษาในศาลฎีกา (Supreme Court) ของบางประเทศ อย่างเช่น อเมริกา หรือ อังกฤษ อะไรประมาณนั้นครับ คือมันจะดูมีตำแหน่งที่สูงกว่า “Judge” ทั่วไปอยู่หน่อยนึง
แล้วก็มีอีกคำที่ผมเจอแว๊บๆ ด้วยนะ คือคำว่า Magistrate (แมจิสเทรต) อันนี้จะออกแนวผู้พิพากษาในศาลแขวง หรือศาลชั้นต้นที่พิจารณาคดีเล็กๆ น้อยๆ ไม่ซับซ้อนมากนัก บางทีก็อาจจะไม่ได้เป็นผู้พิพากษาโดยตรง แต่เป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบอำนาจให้ตัดสินคดีบางประเภทได้ อันนี้ก็เป็นอีกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ได้มาครับ
พอผมเริ่มเข้าใจความแตกต่างคร่าวๆ แล้วเนี่ย ก็ลองย้อนกลับไปดูซีรีส์เรื่องเดิมอีกที คราวนี้พอได้ยินตัวละครพูดถึง “Justice Smith” หรือ “Judge Judy” (อันนี้ยกตัวอย่างขำๆ นะครับ) ผมก็เริ่มจะเก็ทแล้วว่า อ๋อ บริบทมันเป็นอย่างนี้นี่เอง มันทำให้การดูหนังดูซีรีส์ของผมมีอรรถรสมากขึ้นไปอีกขั้นเลยครับ เพราะเราเข้าใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เขาใส่เข้ามา
สรุปแล้ว การที่ผมสงสัยแล้วก็ลงมือค้นคว้าด้วยตัวเองแบบนี้ มันทำให้ผมได้ความรู้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นเยอะเลยครับ จากเรื่องง่ายๆ ที่เราอาจจะมองข้ามไป พอได้เจาะลึกลงไปมันก็มีอะไรให้เรียนรู้อีกเยอะแยะเลยครับ วันนี้ก็เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงนี้ให้เพื่อนๆ ฟังกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ แล้วถ้าเพื่อนๆ มีประสบการณ์หรือความรู้อะไรเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็มาแชร์กันได้นะครับ ผมเองก็ยังเรียนรู้อยู่เรื่อยๆ เหมือนกันครับ!