เรื่องเรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเองเนี่ยนะ เอาจริงป่ะ ตอนแรกๆ ผมก็ไม่ได้คิดอะไรจริงจังหรอก คิดว่าเออๆ เดี๋ยวก็คงเป็นเองมั้งตามประสาคนขี้เกียจทั่วไปนั่นแหละ
แต่จุดเปลี่ยนมันมาถึงเว้ย วันนั้นจำได้แม่นเลย ไปเที่ยวคนเดียวแล้วเจอฝรั่งถามทาง โอ้โห…ใบ้แดกครับท่าน พูดอะไรไม่ออกเลย อ้ำๆ อึ้งๆ ชี้โบ๊ชี้เบ๊ไปมั่วซั่ว โคตรอายตัวเอง กลับมาบ้านนี่แบบ…ไม่ได้ละ ต้องทำอะไรซักอย่างกับสกิลภาษาอังกฤษกูแล้ว
จุดเริ่มต้นแบบงูๆ ปลาๆ
แรกเริ่มเดิมทีก็เหมือนคนอื่นทั่วไปแหละ ไปรื้อหนังสือเรียนเก่าๆ สมัยมัธยมมาอ่าน โห…เปิดไปได้สามหน้า หลับครับ ไม่ไหว ศัพท์แสงอะไรไม่รู้เต็มไปหมด แกรมม่งแกรมม่าอีก โอ๊ย ปวดหัว! ลองไปซื้อคอร์สออนไลน์มาเรียนดูบ้าง ก็ดีนะช่วงแรกๆ แต่พอเรียนไปสักพัก ความขี้เกียจมันก็ครอบงำอีกตามเคย จ่ายตังค์ไปเสียเปล่า
เคยลองโหลดแอปเรียนภาษามาเล่นนะ มีเยอะแยะไปหมด แรกๆ ก็สนุกดี มีเกมให้เล่น มีคำศัพท์ให้ท่อง แต่พอผ่านไปอาทิตย์นึง…เบื่อครับ มันซ้ำๆ เดิมๆ ไม่เห็นจะเอาไปใช้พูดจริงได้ซักที รู้สึกเหมือนเสียเวลาไงไม่รู้
เอาวะ…ลองอีกซักตั้ง!
หลังจากเฟลมาหลายรอบ ก็นั่งคิดจริงจังเลยนะ ว่าคนอื่นเค้าทำกันยังไงวะที่ไม่ต้องไปเสียเงินเรียนแพงๆ หรือไปอยู่เมืองนอก ก็เลยเริ่มจากสิ่งที่ตัวเองชอบก่อนเลย ผมมันพวกบ้าดูหนัง ดูซีรีส์ฝรั่งอยู่แล้ว
ขั้นแรก ผมเริ่มจากการดูหนังที่เคยดูแล้วแต่เป็นพากย์ไทย มาดูใหม่แบบซาวด์แทร็ก แล้วเปิดซับไทยควบคู่ไปด้วย แรกๆ ก็อ่านซับรัวๆ นั่นแหละ แต่พยายามฟังเสียงเค้าพูดตามไปด้วย ให้หูมันคุ้นๆ
ขั้นต่อมา พอดูเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ จนเริ่มจำบทพูดได้บ้างแล้ว ก็ลองเปลี่ยนเป็นซับอังกฤษดู โอ้โห…ช่วงนี้บันเทิงเลยครับ อ่านออกบ้างไม่ออกบ้าง ต้องคอยหยุดแล้วเปิดดิกชันนารีแปลศัพท์เอา สนุกไปอีกแบบ เหมือนเล่นเกมไขปริศนาคำศัพท์ยังไงยังงั้นเลย ทำแบบนี้อยู่เป็นปีนะ ดูมันทุกวัน วันละเรื่องสองเรื่อง
แล้วก็มีอีกอย่างที่ทำควบคู่กันไปคือ ฟังเพลงสากล อันนี้ชอบอยู่แล้ว แต่เปลี่ยนจากการฟังเฉยๆ มาเป็นการพยายามแกะเนื้อเพลงด้วย เปิดเพลงไป อ่านเนื้อตามไป แล้วก็ร้องคลอๆ ตาม ถึงจะเพี้ยนบ้างมั่วบ้างก็ช่างมัน ขอให้ได้เปล่งเสียงออกมาเป็นภาษาอังกฤษบ้าง
พอเริ่มรู้สึกว่าหูมันเริ่มชินกับสำเนียง เริ่มจับคำได้มากขึ้น ก็เริ่มหาอะไรที่มันท้าทายขึ้นมาหน่อย ผมไปเจอพวกคลิปสั้นๆ ในยูทูบที่เป็นบทสนทนาในชีวิตประจำวัน หรือพวกคลิปข่าวภาษาอังกฤษง่ายๆ ก็พยายามฟังแล้วพูดตามเค้าทีละประโยค สองประโยค พูดคนเดียวนี่แหละครับ ไม่ต้องอายใคร แรกๆ ก็เขินตัวเองนะ แต่หลังๆ ชินละ เหมือนคนบ้าพูดคนเดียว ฮ่าๆๆ
แล้วผลลัพธ์ล่ะ?
ถามว่าตอนนี้เก่งระดับเทพเลยมั้ย? บอกเลยว่าไม่ ยังมีอีกเยอะที่ต้องเรียนรู้ แต่ถ้าเทียบกับไอ้คนที่ยืนใบ้แดกวันนั้นน่ะนะ โอ้โห…คนละเรื่องเลย ตอนนี้ผมพอจะดูหนังรู้เรื่องแบบไม่ต้องเพ่งซับมากแล้ว ฟังเพลงก็พอจะเข้าใจความหมายโดยรวมได้ สั่งกาแฟ สั่งอาหาร ถามทางง่ายๆ เวลาเจอฝรั่งก็ไม่ประหม่าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว กล้าที่จะพูดออกไปมากขึ้น ถึงจะผิดๆ ถูกๆ บ้างก็เหอะ
ทั้งหมดทั้งมวลนี่ ผมไม่ได้ไปเข้าคอร์สแพงๆ ที่ไหนเลยนะ อาศัยลูกบ้ากับความสม่ำเสมอล้วนๆ มันไม่มีทางลัดหรอกครับ ถ้าอยากจะทำอะไรซักอย่างให้ได้จริงๆ มันต้องลงมือทำเอง เจ็บเอง เรียนรู้เอง แล้วมันจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง
ทุกวันนี้ก็ยังฝึกอยู่นะ พยายามหาอะไรใหม่ๆ มาเรียนรู้ตลอด เพราะภาษามันไม่มีวันเรียนจบสิ้นหรอกครับ ใครที่กำลังท้อๆ กับการเรียนภาษาอังกฤษอยู่ ผมอยากจะบอกว่า อย่าเพิ่งยอมแพ้ ลองหาวิธีที่มันใช่สำหรับตัวเองดู ทำให้มันเป็นเรื่องสนุก แล้วก็ทำมันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เห็นผลเองแหละ เชื่อผมดิ!