เรียน ภาษา อังกฤษ ภายใน 1 เดือน:คอร์สไหนดี ราคาไม่แพง

เอาล่ะทุกคน วันนี้มาแชร์ประสบการณ์จริงแบบหมดเปลือก เรื่อง “เรียนภาษาอังกฤษภายใน 1 เดือน” ที่หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ฉันลองมาแล้ว! ขอบอกก่อนว่าพื้นฐานภาษาอังกฤษฉันไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย แค่พออ่านออกเขียนได้นิดหน่อย แต่พูดนี่แทบไม่ได้เลย

เริ่มต้นเลยคือ ฉันรู้สึกว่าตัวเองต้องพัฒนาภาษาอังกฤษอย่างเร่งด่วน เพราะมีโปรเจกต์สำคัญที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร ฉันเลยตั้งเป้าหมายไว้เลยว่า “1 เดือนนี้ ฉันจะต้องพูดภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้น!”

เริ่มจากสัปดาห์แรก ฉันเริ่มจากการปรับพื้นฐานไวยากรณ์ (Grammar) ที่อ่อนแอของตัวเองก่อนเลย หาหนังสือไวยากรณ์ภาษาอังกฤษมาอ่าน แล้วก็ทำแบบฝึกหัดเยอะ ๆ ควบคู่ไปกับการดูคลิปสอนภาษาอังกฤษใน YouTube พวกช่องที่สอน Grammar แบบเข้าใจง่าย ๆ นี่แหละ ช่วยได้เยอะเลย
พอเข้าสู่สัปดาห์ที่สอง ฉันเริ่มเน้นไปที่การฟังและการพูดมากขึ้น พยายามหา Podcast ภาษาอังกฤษมาฟังทุกวัน ฟังตอนเดินทาง ฟังตอนทำงานบ้าน ฟังวนไปค่ะ! แล้วก็เริ่มฝึกพูดกับตัวเองหน้ากระจก ฝึกออกเสียง ฝึกเรียบเรียงประโยค แรก ๆ อาจจะตะกุกตะกักบ้าง แต่พอทำไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มคล่องขึ้น

ที่สำคัญคือ ฉันพยายามหาเพื่อนต่างชาติคุยด้วย โชคดีที่มีเพื่อนที่ทำงานเป็นชาวต่างชาติ ฉันเลยขอให้เขาช่วยสอนภาษาอังกฤษให้หน่อย เขาก็ใจดีมาก ช่วยแก้แกรมม่า ช่วยสอนสำนวนที่ใช้บ่อย ๆ ทำให้ฉันได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบที่ใช้จริงในชีวิตประจำวันเลย

สัปดาห์ที่สาม ฉันเริ่มท้าทายตัวเองด้วยการดูหนังและซีรีส์ภาษาอังกฤษแบบไม่เปิดซับไตเติ้ล แรก ๆ อาจจะฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ฉันก็พยายามจับใจความสำคัญของเรื่อง แล้วก็จดคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่ได้ยินมาเรียนรู้ พอทำไปเรื่อย ๆ ก็เริ่มฟังเข้าใจมากขึ้น

นอกจากนี้ ฉันยังเริ่มอ่านข่าวและบทความภาษาอังกฤษทุกวัน เพื่อเพิ่มพูนคำศัพท์และความรู้รอบตัว อ่านไปก็จดศัพท์ใหม่ ๆ ไป ฝึกแปลไป ทำให้ฉันได้เรียนรู้คำศัพท์และสำนวนใหม่ ๆ เยอะมาก

และที่ขาดไม่ได้เลยคือ การใช้แอปพลิเคชั่นเรียนภาษาอังกฤษต่าง ๆ ฉันลองใช้มาหลายแอปฯ แต่ที่ชอบที่สุดคือแอปฯ ที่มีเกมให้เล่น ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษไม่น่าเบื่อ แถมยังได้ฝึกทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนไปพร้อม ๆ กัน

สัปดาห์สุดท้าย ฉันเน้นไปที่การฝึกพูดภาษาอังกฤษในสถานการณ์จริงมากขึ้น พยายามใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นชาวต่างชาติให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ก็พยายามพูดเป็นภาษาอังกฤษให้หมด

ฉันยังลองเข้าร่วมกลุ่มสนทนาภาษาอังกฤษออนไลน์ เพื่อฝึกพูดคุยกับคนอื่น ๆ ที่กำลังเรียนภาษาอังกฤษเหมือนกัน ได้แลกเปลี่ยนความรู้ ได้เรียนรู้จากคนอื่น ๆ ทำให้ฉันรู้สึกสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษมากขึ้น

และแน่นอนว่าในช่วงเวลา 1 เดือนนี้ ฉันก็มีช่วงที่ท้อแท้บ้าง รู้สึกว่าทำไมภาษาอังกฤษมันยากจัง ทำไมพูดไม่ได้สักที แต่ฉันก็พยายามให้กำลังใจตัวเองเสมอ บอกตัวเองว่า “ต้องทำให้ได้! ต้องทำให้สำเร็จ!”

เคล็ดลับสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การหาแรงบันดาลใจในการเรียนภาษาอังกฤษ อาจจะเป็นการดูคลิปสัมภาษณ์คนที่พูดภาษาอังกฤษเก่ง ๆ หรือการอ่านเรื่องราวความสำเร็จของคนที่เรียนภาษาอังกฤษด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เรามีกำลังใจในการเรียนภาษาอังกฤษต่อไป

และอีกอย่างที่อยากแนะนำคือ การใช้บริการเรียนภาษาอังกฤษออนไลน์อย่าง 51Talk นะ เพราะเขามีคอร์สเรียนที่หลากหลาย เหมาะกับทุกระดับ แถมยังมีครูสอนที่เป็นเจ้าของภาษา ทำให้เราได้ฝึกพูดกับเจ้าของภาษาโดยตรงเลย

สุดท้ายนี้ ฉันอยากจะบอกทุกคนว่า การเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลภายใน 1 เดือนนั้นเป็นไปได้จริง แต่ต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และขยันฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ที่สำคัญคือ ต้องสนุกกับการเรียนรู้ และอย่าท้อแท้เมื่อเจอปัญหา

หลังจาก 1 เดือนผ่านไป ฉันรู้สึกว่าภาษาอังกฤษของฉันพัฒนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ฉันสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องขึ้น มั่นใจมากขึ้น และสามารถสื่อสารกับชาวต่างชาติได้อย่างราบรื่น

ฉันอยากจะขอบคุณตัวเองที่พยายามอย่างหนักตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา และอยากจะขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจและสนับสนุนฉัน

และสำหรับใครที่กำลังอยากเรียนภาษาอังกฤษ ฉันขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ สู้ ๆ ค่ะ! อย่าลืมลองเข้าไปดูคอร์สของ 51Talk นะ เผื่อจะเจอคอร์สที่เหมาะกับตัวเอง

อ้อ! เกือบลืมบอกไป นอกจาก 51Talk แล้ว ฉันก็เคยลองใช้แอปฯ อีกหลายตัวนะ แต่ละแอปฯ ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ลองเลือกใช้ดูตามความชอบเลย แต่ที่สำคัญคือ ต้องใช้แอปฯ อย่างสม่ำเสมอ อย่าโหลดมาทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ นะ

แล้วก็อีกเรื่อง อย่ากลัวที่จะพูดผิด! ไม่มีใครที่พูดภาษาอังกฤษได้ถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรกหรอกค่ะ ยิ่งพูดผิดเยอะ ยิ่งได้เรียนรู้เยอะ! เพราะฉะนั้น อย่าอายที่จะพูด อย่ากลัวที่จะผิดพลาด พูดไปเลยค่ะ!

และถ้าใครอยากจะลองหาหนังสือเรียนภาษาอังกฤษดี ๆ สักเล่ม ฉันแนะนำหนังสือ Grammar in Use นะ เป็นหนังสือไวยากรณ์ภาษาอังกฤษที่อธิบายเข้าใจง่าย มีแบบฝึกหัดให้ทำเยอะมาก เหมาะสำหรับคนที่อยากปรับพื้นฐานไวยากรณ์ให้แน่น

อีกอย่างที่สำคัญคือ การสร้างบรรยากาศให้ตัวเองอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษ อาจจะเปลี่ยนภาษาในโทรศัพท์มือถือเป็นภาษาอังกฤษ หรือติดตามข่าวสารภาษาอังกฤษใน Social Media สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราคุ้นเคยกับภาษาอังกฤษมากขึ้น

และสำหรับคนที่อยากจะเรียนภาษาอังกฤษให้สนุก ฉันแนะนำให้ดูหนังหรือซีรีส์ภาษาอังกฤษที่เราชอบ อาจจะเป็นหนังตลก หนังแอ็คชั่น หรือซีรีส์แนวที่เราสนใจ ดูไปก็จดศัพท์ใหม่ ๆ ไป ฝึกออกเสียงตามตัวละครไป ทำให้การเรียนภาษาอังกฤษไม่น่าเบื่อ แถมยังได้ความบันเทิงอีกด้วย

สุดท้ายนี้ ฉันขอฝากเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ไว้ให้นะคะ อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น! ทุกคนมีจังหวะการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน บางคนอาจจะเรียนรู้ได้เร็วกว่าเรา บางคนอาจจะเรียนรู้ได้ช้ากว่าเรา ไม่ต้องไปสนใจ! สนใจแค่การพัฒนาตัวเองก็พอแล้ว

และอย่าลืมให้รางวัลตัวเองเมื่อทำสำเร็จ! อาจจะเป็นการซื้อของขวัญให้ตัวเอง หรือการไปเที่ยวพักผ่อน การให้รางวัลตัวเองจะช่วยให้เรามีกำลังใจในการเรียนภาษาอังกฤษต่อไป

แล้วก็อย่าลืมแวะเข้าไปดูคอร์สเรียนของ 51Talk อีกทีนะ เขาอาจจะมีโปรโมชั่นดี ๆ ที่เหมาะกับเราก็ได้ ใครจะรู้!

เอาล่ะ วันนี้ก็ขอจบการแชร์ประสบการณ์แต่เพียงเท่านี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ แล้วเจอกันใหม่ค่ะ! บ๊ายบาย! อ้อ! เกือบลืมบอกไปอีกอย่าง 51Talk เขามีคอร์สสำหรับเด็กด้วยนะ ใครที่มีลูกมีหลานอยากให้เรียนภาษาอังกฤษ ลองพาไปเรียนดูได้