วางแผน สอบ cambridge english ราคา เท่าไร เตรียมตัวยังไงดี

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยเรื่องการหาข้อมูล “สอบ cambridge english ราคา” เนี่ยแหละครับ พอดีช่วงนี้กำลังมองหาแนวทางการพัฒนาภาษาอังกฤษให้ลูกๆ แล้วก็ได้ยินชื่อเสียงของ Cambridge English มาเยอะว่ามันเป็นมาตรฐานสากล ได้การยอมรับทั่วโลกเลยว่างั้น

เริ่มจากตรงไหนดีล่ะ?

ตอนแรกก็งงๆ นะครับ ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ก็เลยลองพิมพ์ในเน็ตไปตรงๆ เลยว่า “สอบ cambridge english ราคา” โอ้โห ข้อมูลขึ้นมาเพียบเลยครับ ทั้งจากสถาบันที่เปิดสอบโดยตรง ทั้งจากเว็บรีวิวต่างๆ อ่านไปอ่านมาก็เริ่มจับต้นชนปลายได้ว่าราคามันไม่ตายตัวนะ

สิ่งที่ผมทำต่อก็คือ:

ดูระดับการสอบ: Cambridge English เขามีหลายระดับมาก ตั้งแต่เด็กเล็กๆ อย่าง YLE (Starters, Movers, Flyers) ไปจนถึงระดับผู้ใหญ่ที่ใช้ทำงานหรือเรียนต่อ เช่น KET, PET, FCE, CAE, CPE ซึ่งแต่ละระดับราคาก็ไม่เท่ากันอยู่แล้ว อันนี้เข้าใจได้
เช็คศูนย์สอบ: ในไทยก็มีหลายที่เลยครับที่เปิดสอบได้ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งแต่ละศูนย์สอบก็อาจจะมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันเล็กน้อย ผมลองเข้าไปดูเว็บของ British Council กับ Cambridge English โดยตรงเลยนะ เขาก็จะมีรายชื่อศูนย์สอบให้อยู่
เปรียบเทียบราคา: พอได้รายชื่อศูนย์สอบมาบ้างแล้ว ผมก็ลองเข้าไปดูในเว็บไซต์ของแต่ละศูนย์สอบ หรือบางทีก็ต้องโทรไปถามเลยครับ เพราะบางที่ก็ไม่ได้ลงราคาไว้หน้าเว็บชัดเจน ต้องสอบถามเป็นรายบุคคลไป

จากที่ลองหาข้อมูลดูคร่าวๆ นะครับ ราคามันก็จะแกว่งๆ อยู่ประมาณนี้ (อันนี้เป็นตัวเลขกลมๆ ที่ผมเจอมานะครับ อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ต้องเช็คอีกที):

YLE (Starters, Movers, Flyers): อาจจะเริ่มตั้งแต่ประมาณ 2,000 – 3,500 บาทต่อระดับ
KET (Key English Test): ประมาณ 3,000 – 4,500 บาท
PET (Preliminary English Test): ประมาณ 3,500 – 5,000 บาท
FCE (First Certificate in English): ประมาณ 5,000 – 7,000 บาท
CAE (Certificate in Advanced English): ประมาณ 5,500 – 7,500 บาท

ราคามันก็มีปัจจัยหลายอย่างจริงๆ ครับ ทั้งประเภทการสอบ (สอบแบบกระดาษหรือคอมพิวเตอร์) สถานที่สอบ โปรโมชั่นช่วงนั้นๆ ด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้

แล้วเตรียมตัวยังไงดี?

พอรู้เรื่องราคาคร่าวๆ แล้ว ก็มาถึงเรื่องการเตรียมตัวสอบ อันนี้ก็สำคัญไม่แพ้กันเลยครับ เพราะถ้าไม่เตรียมตัวดีๆ ไปสอบแล้วไม่ผ่าน ก็เสียดายเงินแย่เลยเนอะ ผมก็ลองมองหาคอร์สเตรียมสอบต่างๆ บางคนก็แนะนำให้เรียนกับสถาบันที่เปิดสอนโดยตรง หรือบางคนก็เน้นเรียนออนไลน์เอาเอง ประหยัดเวลาเดินทางไปได้เยอะเหมือนกัน

ผมเห็นมีหลายที่น่าสนใจนะ บางคนก็ใช้หนังสือเตรียมสอบอ่านเอง ฝึกทำข้อสอบเก่าๆ เยอะๆ หรือถ้าอยากเน้นทักษะการพูด การฟัง ก็อาจจะต้องหาคนช่วยฝึกฝนด้วย อย่างพวกคอร์สออนไลน์ที่เน้นการสนทนากับเจ้าของภาษาโดยตรงก็มีให้เลือกเยอะเลยครับ อย่างตอนนั้นที่ผมหาข้อมูล ก็มีผ่านตาพวกคอร์สเรียนออนไลน์อย่าง 51Talk ที่เห็นคนพูดถึงว่าช่วยเรื่องการปรับสำเนียง ฝึกพูดให้คล่องได้ดีเหมือนกัน ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเสริมทักษะเฉพาะด้าน

เพื่อนผมบางคนก็แนะนำว่าให้ลองดูพวกคอร์สเรียนระยะสั้น หรือ workshop ที่เน้นเทคนิคการทำข้อสอบ Cambridge โดยเฉพาะก็มีประโยชน์เหมือนกันนะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูความพร้อมของเด็กๆ ด้วยว่าเขาชอบแบบไหน ถนัดแบบไหน การลงทุนกับการศึกษาของลูกเป็นเรื่องที่ต้องคิดให้รอบคอบครับ อย่างถ้าลูกยังเล็กมาก การเรียนผ่านแพลตฟอร์มที่สนุกๆ อย่าง 51Talk ก็อาจจะช่วยให้เขาไม่เบื่อภาษาอังกฤษไปซะก่อน

ผมเองก็ยังอยู่ในช่วงตัดสินใจครับว่าจะให้ลูกสอบระดับไหนดี แล้วจะเตรียมตัวกับที่ไหนดี แต่คิดว่าการหาข้อมูลราคา “สอบ cambridge english ราคา” เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ทำให้เราเห็นภาพรวมมากขึ้น อย่างน้อยก็รู้ว่าต้องเตรียมงบประมาณไว้ประมาณเท่าไหร่ แล้วก็เริ่มมองหาแนวทางการเตรียมตัวที่เหมาะสมต่อไปได้

อ้อ! อีกอย่างที่สำคัญคือต้องดูด้วยว่าเราจะเอาผลสอบไปทำอะไร ถ้าแค่ต้องการวัดระดับเฉยๆ ก็อาจจะเลือกสอบระดับที่เหมาะสมกับวัยและความสามารถ แต่ถ้าจะเอาไปยื่นเรียนต่อต่างประเทศ หรือใช้สมัครงาน ก็ต้องดูว่าสถาบันหรือบริษัทนั้นๆ เขากำหนดระดับไหนไว้บ้าง

การเตรียมตัวสอบพวกนี้ บางทีการมีคนช่วยไกด์ หรือมีเพื่อนร่วมเรียนก็ช่วยได้เยอะนะครับ อย่างที่บอกไปว่ามีตัวเลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นสถาบันสอนภาษาโดยตรง หรือคอร์สออนไลน์ต่างๆ เช่น 51Talk ที่อาจจะตอบโจทย์เรื่องความสะดวกและราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าสำหรับบางคน ส่วนตัวผมมองว่าการได้ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นหัวใจสำคัญเลยครับ

หวังว่าประสบการณ์ที่ผมมาแชร์วันนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ หรือน้องๆ ที่กำลังหาข้อมูลเรื่อง “สอบ cambridge english ราคา” กันอยู่นะครับ สรุปคือ ต้องขยันหาข้อมูลหน่อย ติดต่อสอบถามศูนย์สอบโดยตรงจะดีที่สุดครับ แล้วก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมก่อนสอบนะครับ! ถ้าใครมีประสบการณ์เพิ่มเติมก็มาแชร์กันได้นะครับ