หลักสูตร English Program ประถม เรียนอะไรบ้าง สอนเข้มข้นกว่าปกติจริงไหม

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยนะ เรื่องการหาหลักสูตร English Program (EP) ให้ลูกตอนประถมเนี่ย มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ครับ ตอนแรกที่คิดจะให้ลูกเข้า EP ก็เพราะอยากให้เค้าได้ภาษาอังกฤษติดตัวไปตั้งแต่เนิ่นๆ สมัยนี้ภาษามันสำคัญมากจริงๆ ครับ

เริ่มจากตรงไหนดี?

ตอนแรกก็มึนตึ้บเลยครับ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหนดี โรงเรียนแถวบ้านก็มีหลายที่ ทั้งรัฐบาล ทั้งเอกชน แต่ละที่ก็มีรายละเอียดแตกต่างกันไป ผมเริ่มจากลองลิสต์รายชื่อโรงเรียนที่สนใจออกมาก่อนเลยครับ แล้วก็เริ่มหาข้อมูลเบื้องต้นจากเว็บไซต์ของโรงเรียนบ้าง จากรีวิวตามกลุ่มผู้ปกครองบ้าง แต่ข้อมูลมันก็เยอะมากจนเลือกไม่ถูก

ตะลุยดูโรงเรียนจริง

หลังจากพอได้รายชื่อโรงเรียนที่น่าสนใจมาบ้างแล้ว ผมกับภรรยาก็เริ่มวางแผนไปเยี่ยมชมโรงเรียนแต่ละแห่งเลยครับ อันนี้สำคัญมากนะ เพราะการได้ไปเห็นสถานที่จริง บรรยากาศจริงๆ มันช่วยให้ตัดสินใจได้เยอะเลย ผมจะสังเกตตั้งแต่สภาพแวดล้อมโดยรวมของโรงเรียน ความสะอาด ความปลอดภัย ห้องเรียนเป็นยังไง สื่อการสอนทันสมัยไหม จำนวนนักเรียนต่อห้อง คุณครูต่างชาติเป็นยังไง สำเนียงโอเคไหม แล้วก็ที่สำคัญคือหลักสูตรเค้าสอนอะไรบ้าง เน้นอะไรเป็นพิเศษ

  • ดูจำนวนครูต่างชาติเทียบกับครูไทย
  • สอบถามเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษในห้องเรียน ว่าใช้กี่เปอร์เซ็นต์
  • ดูว่าเด็กๆ ในโรงเรียนดูมีความสุขไหม กล้าพูดกล้าแสดงออกหรือเปล่า
  • แน่นอนว่าเรื่องค่าเทอมก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเอามาพิจารณาด้วยครับ

บางโรงเรียน EP ก็เน้นวิชาการจ๋าเลย บางที่ก็เน้นกิจกรรม บางที่ก็ดูเหมือนจะผสมผสาน ผมพยายามมองหาที่ที่ลูกเราน่าจะเรียนแล้วมีความสุข ไม่ใช่แค่เก่งวิชาการอย่างเดียว แต่ต้องกล้าใช้ภาษาด้วย

ขั้นตอนการตัดสินใจของผม

หลังจากไปดูมาหลายที่ ก็เริ่มเอาข้อมูลทั้งหมดมานั่งคุยกันกับภรรยาครับ ลิสต์ข้อดีข้อเสียของแต่ละโรงเรียนออกมาเลย แล้วก็ดูว่าที่ไหนตอบโจทย์ครอบครัวเรามากที่สุด ไม่ใช่แค่เรื่องวิชาการนะ แต่รวมถึงการเดินทาง ความสะดวกต่างๆ ด้วย ลูกผมเองก็มีส่วนร่วมในการตัดสินใจนะ ผมจะเล่าให้เค้าฟังว่าแต่ละโรงเรียนเป็นยังไง แล้วก็ดูว่าเค้าชอบที่ไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า

ระหว่างที่ลูกเรียน EP ไปได้สักพัก ผมก็สังเกตว่าเค้าเริ่มเข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้น แต่บางทียังไม่ค่อยกล้าพูดโต้ตอบเท่าไหร่ อาจจะเพราะในห้องเรียนเพื่อนเยอะ ครูอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง ผมก็เลยลองหาตัวช่วยเสริมให้ลูกได้ฝึกพูดมากขึ้น เพื่อนๆ ก็แนะนำมาว่าลองดูคลาสเรียนออนไลน์สิ มันสะดวกดี ผมก็ไปเจอ 51Talk ครับ เห็นว่าเค้ามีครูต่างชาติให้คุยตัวต่อตัวได้ ก็เลยให้ลูกลองดู ปรากฏว่าลูกชอบมากครับ เค้าได้ฝึกพูดจริงๆ จังๆ แบบไม่ต้องเขินอายใคร

หลังเลือกโรงเรียนแล้วก็ยังไม่จบ

พอเลือกโรงเรียนได้แล้ว ส่งลูกเข้าเรียนแล้ว ก็ยังไม่ถือว่าจบนะครับ เราก็ยังต้องคอยสังเกตพัฒนาการของลูกอยู่เสมอ คอยพูดคุยกับคุณครูบ้าง ถามไถ่เรื่องการเรียนของลูกว่าเป็นยังไง มีอะไรให้เราช่วยเสริมได้อีกไหม บางทีการเรียนในห้องอย่างเดียวอาจจะไม่พอครับ การหาอะไรเสริมให้ลูกได้ฝึกฝนเพิ่มเติมก็เป็นเรื่องที่ดี อย่างที่บอกไปว่าผมให้ลูกเรียนกับ 51Talk เพิ่มเติม เพราะมันช่วยให้เค้าได้ฝึกฝนการสนทนาจริง ทำให้กล้าพูดมากขึ้น แล้วเวลาเรียนก็ยืดหยุ่นดี ไม่กระทบเวลาทำการบ้านหรือพักผ่อนของลูกมากนัก

ผมว่าการที่ลูกเรียน EP แล้วได้เสริมทักษะการพูดกับครูเจ้าของภาษาตัวต่อตัวอย่างที่ 51Talk มีให้ มันช่วยลดความประหม่าของลูกได้เยอะเลยครับ ทำให้เค้าคุ้นเคยกับการโต้ตอบเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น พอกลับไปที่โรงเรียน เค้าก็กล้าที่จะยกมือตอบคำถามคุณครูมากขึ้นด้วย

อีกอย่างที่อยากจะฝากไว้คือ อย่าคาดหวังว่าส่งลูกเรียน EP แล้วเค้าจะเก่งอังกฤษแบบปร๋อเลยในทันทีนะครับ ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอ การสนับสนุนจากที่บ้านก็สำคัญมาก พยายามสร้างบรรยากาศให้ลูกรู้สึกสนุกกับการเรียนรู้ภาษา อย่าไปกดดันเค้ามากเกินไป และที่สำคัญไม่แพ้กันคือ ภาษาไทยก็ต้องไม่ทิ้งนะครับ เด็กสองภาษาน่ะดี แต่ภาษาแม่ก็ต้องแข็งแรงด้วย

สรุปแล้ว การเลือกโรงเรียน EP ให้ลูกเนี่ย มันคือการเดินทางจริงๆ ครับ ต้องศึกษาข้อมูลเยอะๆ คุยกับลูกเยอะๆ แล้วก็หาจุดที่เหมาะสมกับครอบครัวเราที่สุด หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่ท่านอื่นๆ บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ