เรียน ภาษา อังกฤษ พื้นฐาน grammar ด้วยตัวเอง เข้าใจง่ายสุดๆ

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองกับการฝึกภาษาอังกฤษพื้นฐาน โดยเฉพาะเรื่อง grammar หรือไวยากรณ์เนี่ยแหละครับ ตอนแรกๆ ผมก็คิดว่ามันคงไม่ยากเท่าไหร่หรอกน่า อาศัยจำๆ เอา เดี๋ยวก็คงได้เองแหละ แต่พอเอาเข้าจริง โอ้โห! มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเลยครับ

จุดเริ่มต้นและความงงงวย

คือผมเริ่มจากความรู้สึกว่าอยากจะสื่อสารภาษาอังกฤษให้มันรู้เรื่องมากขึ้น เวลาดูหนังฟังเพลง หรืออ่านบทความง่ายๆ ก็อยากจะเข้าใจมันจริงๆ ไม่ใช่แค่เดาๆ ไปเรื่อย ตอนนั้นก็เลยไปหาหนังสือ grammar พื้นฐานมาอ่านครับ อ่านไปก็เหมือนจะเข้าใจนะ แต่พอจะลองเอาไปใช้จริง เอ้า! งงเฉยเลย พวก Tense ต่างๆ เนี่ยตัวดีเลยครับ Present Sim, Past Sim, Future Sim อะไรพวกนี้ ทำไมมันต้องมีหลายแบบจัง แล้วแต่ละแบบใช้ตอนไหนบ้าง บางทีก็สับสนระหว่าง is, am, are หรือ was, were โอ้ย ปวดหัว!

แล้วก็พวก Subject-Verb Agreement อีก อันนี้ก็ทำเอามึนไปหลายรอบเลยครับ ไหนจะเรื่อง Article (a, an, the) อีก ที่แบบว่าเมื่อไหร่จะใช้ a เมื่อไหร่จะใช้ an แล้ว the นี่มันพิเศษยังไง ตอนนั้นคือเปิดดิกชันนารี ควบคู่กับหนังสือแกรมม่าไปเลยครับ แต่ก็ยังจับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ รู้สึกเหมือนยิ่งเรียนยิ่งงง

ลองผิดลองถูก และค้นหาวิธี

ผมก็ไม่ได้ยอมแพ้นะครับ พยายามหาหนทางต่อไป ลองไปดูคลิปสอนภาษาอังกฤษในยูทูบบ้าง อ่านบทความตามเว็บต่างๆ บ้าง บางอันก็ดีครับ อธิบายเข้าใจง่าย แต่บางอันก็ละเอียดเกิ๊น จนผมท้อไปเลยก็มี ช่วงนั้นผมก็เริ่มมองหาคอร์สเรียนออนไลน์ดูบ้างเหมือนกันครับ เพราะคิดว่าถ้ามีคนคอยแนะนำน่าจะดีกว่า มีเพื่อนแนะนำที่นึง บอกว่า 51Talk เขามีคอร์สสำหรับคนพื้นฐานน้อยด้วยนะ น่าจะช่วยได้เยอะ ผมก็เก็บไว้เป็นตัวเลือกหนึ่งในใจ

สิ่งที่ผมค้นพบจากการลองผิดลองถูกคือ การเรียน grammar เนี่ย มันไม่ใช่แค่การท่องจำกฎอย่างเดียว แต่มันต้องพยายามทำความเข้าใจ “เหตุผล” ของมันด้วยว่าทำไมถึงต้องใช้แบบนี้ แล้วที่สำคัญที่สุดคือ “การฝึกฝน” ครับ

  • เริ่มจากประโยคสั้นๆ: ผมเริ่มจากพยายามแต่งประโยคง่ายๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันก่อนเลยครับ เช่น I eat. You sleep. He runs. อะไรแบบนี้ แล้วค่อยๆ เพิ่มรายละเอียดเข้าไปทีละนิด เช่น I eat rice. You sleep at night. He runs in the park.
  • โฟกัสทีละเรื่อง: แทนที่จะพยายามเรียนทุกเรื่องพร้อมกัน ผมเลือกที่จะโฟกัสทีละหัวข้อ เช่น วันนี้จะทำความเข้าใจเรื่อง Tense ให้ได้สัก Tense หนึ่งก่อน พอเข้าใจแล้วค่อยไปเรื่องอื่น
  • หาตัวอย่างเยอะๆ: ผมพยายามหาตัวอย่างประโยคเยอะๆ จากแหล่งต่างๆ ทั้งหนังสือ เพลง หรือหนัง แล้วลองสังเกตดูว่าเขาใช้ grammar กันยังไง พอเห็นตัวอย่างบ่อยๆ มันก็เริ่มซึมซับเข้าไปเองครับ
  • หัดพูด หัดเขียน: อันนี้สำคัญมาก ผมพยายามหาโอกาสพูดภาษาอังกฤษกับเพื่อน หรือแม้กระทั่งพูดกับตัวเองหน้ากระจกนี่แหละครับ (ฮา) แล้วก็ลองเขียนไดอารี่สั้นๆ เป็นภาษาอังกฤษดูบ้าง ผิดถูกไม่เป็นไร ขอให้ได้ลองใช้จริง

มีช่วงนึงที่ผมรู้สึกว่าการเรียนด้วยตัวเองมันไปได้ช้ามาก เหมือนติดอยู่กับที่ เลยลองไปดูข้อมูลของ 51Talk เพิ่มเติม เห็นว่าเขามีการสอนแบบตัวต่อตัว ซึ่งน่าจะช่วยให้เรากล้าถามในสิ่งที่ไม่เข้าใจได้ง่ายขึ้น แล้วก็มีคนคอยแก้แกรมม่าให้เราด้วย อันนี้ก็น่าสนใจมากเลยครับ

สิ่งที่เรียนรู้และผลลัพธ์

หลังจากที่พยายามฝึกฝนมาสักพักใหญ่ๆ ผมก็เริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงครับ จากที่เคยงงๆ กับ Tense ต่างๆ ก็เริ่มจะเข้าใจมากขึ้นว่าแต่ละ Tense มันสื่อถึงช่วงเวลาไหน และใช้ในสถานการณ์แบบใด การเรียงคำในประโยคก็เริ่มจะคล่องขึ้น ไม่สลับตำแหน่งมั่วซั่วเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

ผมยังจำได้เลยว่ามีช่วงนึงที่ผมพยายามจะอธิบายเรื่องง่ายๆ ให้เพื่อนชาวต่างชาติฟัง แต่ด้วยความที่แกรมม่าผมยังไม่แข็งแรงพอ มันเลยกลายเป็นว่าสื่อสารกันไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ ตอนนั้นแหละครับที่ทำให้ผมรู้สึกว่า เออ! แกรมม่าพื้นฐานนี่มันสำคัญจริงๆ นะ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการทำข้อสอบให้ผ่าน แต่มันคือเครื่องมือที่เราจะใช้สื่อสารกับคนอื่นให้เข้าใจตรงกัน

พอพื้นฐานเริ่มแน่นขึ้น การเรียนรู้เรื่องอื่นๆ มันก็ง่ายตามไปด้วยครับ เหมือนเรามีฐานที่มั่นคงแล้ว จะต่อยอดไปเรียนรู้ศัพท์ใหม่ๆ หรือโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อนขึ้น มันก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปอีกต่อไป ผมสังเกตว่าหลายคนที่เก่งภาษามากๆ เขาก็จะให้ความสำคัญกับพื้นฐานแกรมม่ากันทั้งนั้น บางคนอาจจะบอกว่าเรียนจากเจ้าของภาษาโดยตรงอย่างใน 51Talk ก็ช่วยได้เยอะ เพราะเขาจะใช้ภาษาที่เป็นธรรมชาติและถูกต้อง ทำให้เราซึมซับได้ดี

ทุกวันนี้ผมก็ยังคงฝึกฝนอยู่นะครับ ไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่งแล้ว แต่รู้สึกมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้นเยอะเลย อย่างน้อยๆ ก็สามารถสื่อสารเรื่องพื้นฐานในชีวิตประจำวันได้รู้เรื่อง อ่านบทความง่ายๆ หรือดูคลิปสั้นๆ ก็เข้าใจมากขึ้น ผมว่านี่แหละคือผลลัพธ์ที่คุ้มค่ากับการพยายามครับ การเรียนรู้มันไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องภาษา ถ้าเราอยากจะพัฒนาตัวเอง การหาตัวช่วยดีๆ อย่างการลงคอร์สเรียน หรือหาเพื่อนคุยด้วย อย่างที่ 51Talk มีบริการ ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจมากๆ เลยครับ เพราะการมีคนคอยแนะนำและแก้ไขข้อผิดพลาดให้เรา มันจะช่วยให้เราไปได้เร็วขึ้นจริงๆ ครับ

สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่าใครที่กำลังท้อกับการเรียนแกรมม่าอยู่ อย่าเพิ่งยอมแพ้นะครับ ลองหาจุดที่ตัวเองติดขัด แล้วค่อยๆ แก้ไปทีละเปลาะ หาเทคนิคที่เหมาะกับตัวเอง บางทีการมีคนช่วยสอนหรือชี้แนะ อย่างที่ผมเคยได้ยินมาว่า 51Talk สามารถช่วยปูพื้นฐานให้แน่นได้ ก็อาจจะเป็นทางลัดที่ดีทางหนึ่งครับ สู้ๆ ครับทุกคน!