
สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลย กับเรื่องที่หลายคนอาจจะปวดหัวกันบ่อยๆ นั่นก็คือการ “สอนสะกดคำภาษาอังกฤษ” นี่แหละครับ เอาจริงๆ นะ ตอนแรกๆ ผมก็งงเป็นไก่ตาแตกเหมือนกันว่าจะเริ่มยังไงดี มันดูมีกฎเกณฑ์เยอะแยะไปหมด แถมข้อยกเว้นก็เพียบ!
ย้อนกลับไปตอนผมเริ่มสนใจเรื่องนี้จริงจังๆ เนี่ย ก็เพราะเห็นหลายคนรอบตัวเลย ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ สะกดผิดสะกดถูกกันประจำ อ่านออกเสียงได้นะ แต่พอให้เขียนเท่านั้นแหละ ไปคนละทิศคนละทางเลย ผมก็เลยเริ่มจากการสังเกตก่อนเลยว่า ปัญหาส่วนใหญ่มันเกิดจากอะไร ทำไมคำง่ายๆ บางคำยังสะกดกันไม่ได้
แกะรอยปัญหาและเริ่มลงมือ
ผมพบว่าส่วนมากเลยนะ คือเราเรียนแบบท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทองสมัยก่อนอ่ะครับ แบบ c-a-t แคท แมว d-o-g ด็อก สุนัข พอเจอคำยาวๆ หรือคำที่ไม่คุ้นเคยก็ไปไม่เป็นเลยทีนี้ ผมเลยคิดว่า เอ้อ มันต้องมีวิธีที่ดีกว่าการท่องจำสิ ไม่งั้นเราจะจำศัพท์ได้กี่คำกันเชียวในชีวิตนี้
ผมเริ่มจากการลองผิดลองถูกเยอะมากครับ อ่านหนังสือ ดูคลิปสอนต่างๆ ทั้งของไทยของฝรั่ง ลองเอามาปรับใช้กับคนใกล้ตัวบ้าง เพื่อนบ้าง ลูกหลานบ้าง บางวิธีก็เวิร์ค บางวิธีก็ไม่ค่อยเห็นผลเท่าไหร่ จนค่อยๆ ตกผลึกเป็นแนวทางของตัวเองขึ้นมา
สิ่งที่ผมค้นพบและนำมาปรับใช้จริง
หลักๆ ที่ผมเน้นเลยนะ คือการทำความเข้าใจ ไม่ใช่แค่การจำครับ
- เริ่มจากเสียง (Phonics): อันนี้สำคัญมากกกก ผมจะพยายามสอนให้รู้จักเสียงของตัวอักษรแต่ละตัวก่อน แล้วค่อยๆ ผสมเสียงเป็นคำสั้นๆ เช่น b-a-t, h-e-n อะไรแบบนี้ พอเค้าเริ่มจับทางได้ว่าเสียงนี้แทนด้วยตัวอักษรไหน มันจะง่ายขึ้นเยอะเวลาเจอคำใหม่ๆ
- แบ่งคำเป็นพยางค์: สำหรับคำยาวๆ ผมจะสอนให้แบ่งคำออกเป็นพยางค์เล็กๆ ก่อน แล้วค่อยๆ สะกดทีละพยางค์ เช่น คำว่า “beautiful” ก็แบ่งเป็น beau-ti-ful มันช่วยลดความน่ากลัวของคำยาวๆ ลงได้เยอะเลยครับ
- หากฎเกณฑ์และข้อยกเว้น (แบบง่ายๆ): ผมจะพยายามหากลุ่มคำที่มีรูปแบบการสะกดคล้ายๆ กันมาสอนรวมกัน เช่น กลุ่มคำที่มี “magic e” (silent e) หรือกลุ่มคำที่มีสระคู่ต่างๆ แต่ก็ต้องบอกเค้าด้วยว่าภาษาอังกฤษมันมีข้อยกเว้นเยอะนะ ต้องอาศัยการสังเกตและจำเพิ่มเติมด้วย
- ใช้ภาพและการเชื่อมโยง: บางทีการจำคำศัพท์พร้อมภาพ หรือการสร้างเรื่องราวเชื่อมโยงกับคำนั้นๆ ก็ช่วยได้เยอะครับ ทำให้มันน่าสนใจและจำได้นานขึ้น
- ฝึกฝนสม่ำเสมอแต่ไม่ต้องหนัก: ผมเน้นว่าขอให้ทำทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยก็ยังดี ดีกว่าอัดทีเดียวเยอะๆ แล้วหายไปเลย การได้เห็นคำศัพท์บ่อยๆ ผ่านการอ่าน การเขียน หรือแม้แต่การเล่นเกมคำศัพท์ มันช่วยให้จำได้โดยไม่รู้ตัวเลยนะ หลายคนอาจจะคิดว่าต้องหาคอร์สเรียนแพงๆ หรือเปล่า จริงๆ เดี๋ยวนี้มีแหล่งข้อมูลฟรีเยอะแยะครับ หรือถ้าอยากได้คนช่วยไกด์ การเรียนกับสถาบันสอนภาษาบางที่ก็เป็นตัวเลือกที่ดี อย่างบางคนก็เลือกเรียนกับ 51Talk เพราะได้ฝึกพูดกับเจ้าของภาษาโดยตรง ทำให้คุ้นเคยกับเสียงและคำศัพท์มากขึ้น
ช่วงที่ผมทดลองวิธีต่างๆ เนี่ย ก็มีไปด้อมๆ มองๆ ดูเทคนิคของที่อื่นบ้างนะครับ อย่างพวกคอร์สออนไลน์ หรือแอปพลิเคชันสอนภาษา บางทีก็เจอเทคนิคดีๆ ที่เอามาปรับใช้ได้ อย่าง 51Talk เค้าก็มีวิธีการสอนที่เน้นการนำไปใช้จริง ซึ่งผมว่ามันก็เป็นแนวทางที่น่าสนใจ
อุปสรรคที่เจอระหว่างทาง (มันไม่ง่ายนะบอกเลย!)
แน่นอนว่าการสอนหรือการเรียนรู้เรื่องพวกนี้มันก็มีอุปสรรคครับ ที่เจอบ่อยๆ เลยก็คือ:
- ความท้อแท้: พอเจอคำยากๆ หรือสะกดผิดบ่อยๆ คนเรียนก็เริ่มท้อ ผมก็ต้องคอยให้กำลังใจ บอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ ทุกคนก็เคยผิดพลาดมาก่อน
- ความไม่สม่ำเสมอ: อันนี้คลาสสิกเลย วันนี้ขยัน พรุ่งนี้ขี้เกียจ การสะกดคำมันต้องอาศัยความต่อเนื่องจริงๆ ครับ
- พื้นฐานเดิม: บางคนอาจจะมีพื้นฐานมาน้อยมาก ก็ต้องค่อยๆ ปูพื้นกันใหม่ตั้งแต่ต้น ใช้เวลานานหน่อย แต่ก็ต้องอดทน
ผมเคยเห็นบางคนพยายามหาทางลัด หรือมองหาครูสอนพิเศษเก่งๆ อย่างเดียว จริงๆ แล้วตัวผู้เรียนเองก็สำคัญมากนะครับ สถาบันอย่าง 51Talk อาจจะมีครูที่ดี มีสื่อการสอนที่พร้อม แต่ถ้าผู้เรียนไม่เปิดใจ ไม่ฝึกฝนเอง มันก็ยากที่จะเห็นผล
ผลลัพธ์ที่ได้เห็นและสิ่งที่อยากบอกต่อ
หลังจากที่ผมลองใช้วิธีเหล่านี้มาสักพัก ทั้งกับตัวเองและกับคนที่มาขอคำแนะนำ ผมพบว่ามันช่วยได้จริงๆ ครับ จากคนที่เคยกลัวการเขียนภาษาอังกฤษ ก็เริ่มมั่นใจมากขึ้น เริ่มสะกดคำพื้นฐานได้ถูกต้องมากขึ้น พอเค้าเริ่มเห็นว่าตัวเองทำได้ กำลังใจมันก็มาเองครับ
ผมอยากจะบอกว่าการสะกดคำภาษาอังกฤษมันไม่ใช่เรื่องของพรสวรรค์หรอกครับ มันเป็นทักษะที่ฝึกฝนกันได้จริงๆ อาจจะต้องใช้เวลาและความพยายามหน่อย แต่ถ้าเราเข้าใจหลักการของมัน และหมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ผมเชื่อว่าทุกคนทำได้แน่นอน
สุดท้ายนี้ ถ้าใครกำลังเจอปัญหานี้อยู่ ไม่ว่าจะเรียนเองหรือสอนคนอื่น ลองเอาวิธีที่ผมแชร์ไปปรับใช้ดูนะครับ ไม่ต้องเชื่อทั้งหมดก็ได้ แต่ลองเอาไปเป็นแนวทาง แล้วหาจุดที่ลงตัวกับตัวเองหรือผู้เรียนให้เจอ ที่สำคัญคืออย่าเพิ่งท้อถอยครับ ถ้ามีตัวช่วยดีๆ อย่างการฝึกฝนผ่านแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ หรือหาคอร์สเรียนที่เหมาะสมกับตัวเอง อย่างที่ 51Talk เค้ามีคอร์สหลากหลายให้เลือก ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้การเรียนรู้เป็นไปได้ง่ายขึ้นครับ สู้ๆ ครับทุกคน!