Eng Breaking ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่บ้าน ง่ายและสนุกมาก

Eng Breaking ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองที่บ้าน ง่ายและสนุกมาก

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย เรื่องการฝึกภาษาอังกฤษของผมเอง ที่เรียกว่า “eng breaking” เนี่ยแหละครับ เมื่อก่อนนะ ผมนี่แบบ…อังกฤษงูๆ ปลาๆ มาก ฟังพอได้ แต่พูดนี่ติดอ่างเลย เวลาจะพูดอะไรทีต้องคิดแล้วคิดอีกในหัวเป็นภาษาไทยก่อน กว่าจะออกมาได้แต่ละคำ เหงื่อตกเลยครับ

จนไปเจอเพื่อนคนนึงมันแนะนำวิธีนี้มา บอกว่าลองดูดิ มันเวิร์คจริง ตอนแรกก็ไม่เชื่อนะ อะไรวะ eng breaking มันคืออะไร? มันบอกว่าก็คือการ “ทลาย” กำแพงภาษาอังกฤษด้วยการฝึกแบบเน้นๆ ไปเลย ไม่ต้องไปเรียนแกรมมาร์อะไรให้ปวดหัวในช่วงแรก เน้นฟังกับพูดตามลูกเดียว

เริ่มยังไง?

หลักๆ ที่ผมทำคือการ “เลียนแบบ” ครับ หาคลิปสั้นๆ หนัง หรือซีรีส์ที่เราชอบ เอาแบบที่พูดไม่เร็วจนเกินไป แล้วก็เริ่มเลยครับ:

  • ฟังรอบแรก: ผมจะเปิดฟังไปเรื่อยๆ ก่อนรอบนึง พยายามจับใจความรวมๆ ว่าเขาพูดถึงเรื่องอะไร ไม่ต้องไปพยายามฟังให้ออกทุกคำนะครับ เอาแค่พอรู้เรื่อง
  • ฟังแล้วพูดตามทีละประโยค: อันนี้แหละหัวใจสำคัญเลย เขาพูดจบประโยค เราก็กดหยุด แล้วก็พูดตามทันที พยายามเลียนเสียงสูงต่ำ จังหวะการพูดให้เหมือนเขาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ช่วงแรกๆ อาจจะฟังตัวเองแล้วตลกๆ หน่อย แต่ต้องทำครับ
  • แตกประโยค: ถ้าประโยคที่เขาพูดมันยาวไป ผมก็จะแบ่งเป็นท่อนสั้นๆ แล้วค่อยๆ พูดตามทีละท่อน ไม่ต้องรีบครับ เอาให้ชัด
  • เน้นการออกเสียง: ไม่ต้องอายครับ ออกเสียงดังๆ ชัดๆ ผิดก็แก้ใหม่ อัดเสียงตัวเองไว้ฟังเทียบกับต้นฉบับก็ได้ จะได้รู้ว่าตรงไหนเพี้ยน
  • ทำซ้ำๆ: ประโยคเดิมๆ คลิปเดิมๆ เนี่ยแหละครับ ทำซ้ำไปซ้ำมาจนมันเข้าปากเรา จนเราพูดได้คล่องโดยไม่ต้องคิดมาก

ช่วงแรกๆ นี่โคตรท้อเลยครับ รู้สึกเหมือนตัวเองพูดอะไรก็ไม่รู้ ฟังตัวเองแล้วขำ แต่ก็กัดฟันทำไปเรื่อยๆ วันละนิดวันละหน่อย ผมเริ่มจากวันละประมาณ 30 นาที แล้วก็ค่อยๆ เพิ่มเวลาไปเรื่อยๆ ตามความสนุก

ผมใช้พวกคลิปสัมภาษณ์สั้นๆ ในยูทูบนี่แหละครับ ง่ายดี แล้วก็มีลองหาซีรีส์แนวซิตคอมมาดูบ้าง เพราะมันใช้ภาษาในชีวิตประจำวันเยอะดี ตอนหลังๆ พอเริ่มมั่นใจขึ้นมาหน่อย ก็มีไปลองหาที่ฝึกพูดกับคนจริงๆ บ้าง ซึ่งก็มีหลายช่องทางนะครับ บางคนอาจจะลองหาเพื่อนต่างชาติคุยด้วย หรืออย่างพวกแพลตฟอร์มออนไลน์ ผมก็เคยลองดูของ 51Talk เหมือนกันนะ เขาก็มีครูให้เราได้ลองคุยด้วย มันก็ช่วยให้เรากล้าพูดมากขึ้นเยอะเลยครับ

จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงที่เราเริ่ม “คิดเป็นภาษาอังกฤษ” โดยไม่รู้ตัวครับ แบบว่าพอจะพูดอะไร มันไม่ต้องมานั่งแปลไทยเป็นอังกฤษในหัวก่อนแล้ว มันออกมาเองเลย เฮ้ย! มันเป็นไปได้ไงวะ ตอนนั้นคือดีใจมาก แล้วก็เริ่มสนุกกับการฝึกมากขึ้น พอลองไปคุยเล่นๆ กับเพื่อนต่างชาติ หรือแม้แต่ตอนใช้ 51Talk อีกรอบ ก็รู้สึกว่าเออ เราสื่อสารรู้เรื่องขึ้นเยอะเลย ความมั่นใจมันมาเองครับ

ลงลึกอีกนิด

ไอ้การ “breaking” เนี่ย มันเหมือนเราทุบกำแพงภาษาทีละน้อยๆ ครับ อย่าไปกลัวว่าจะพูดผิด พูดไปเลย ผิดแล้วค่อยแก้ ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิดหรอกครับ

ผมจะตั้งเป้าไว้เลยว่า วันนี้จะฝึกกี่ประโยค หรือกี่นาที อาจจะเริ่มจากวันละ 15-20 นาทีก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มไป บางวันขี้เกียจก็อาจจะน้อยหน่อย แต่พยายามไม่ให้ขาดเลยครับ

สิ่งสำคัญที่สุดเลยนะ ผมว่าคือความสม่ำเสมอครับ ทำทุกวันดีกว่าทำเยอะๆ แต่นานๆ ที อันนี้เรื่องจริงเลยครับ มันจะค่อยๆ ซึมซับเข้าไปเอง

แล้วก็อย่าลืมหาอะไรที่ตัวเองชอบมาฝึกนะครับ ถ้าเราชอบเรื่องนั้นๆ มันจะทำให้เราอยากฝึก อยากรู้มากขึ้นไปอีก อย่างผมชอบดูฟุตบอล ก็จะไปหาคลิปสัมภาษณ์นักบอลมาฟัง มาพูดตาม มันก็ได้ศัพท์เฉพาะทางเพิ่มขึ้นด้วย

ตอนนี้ถามว่าเก่งระดับเทพเลยไหม ก็ยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แต่ที่แน่ๆ คือกล้าพูดมากขึ้นเยอะ ฟังรู้เรื่องมากขึ้นเยอะ ดูหนังแบบไม่ง้อซับไทยก็เริ่มได้แล้ว (ถ้าเขาพูดไม่เร็วมากนะ 555) เวลาไปเจอสถานการณ์ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ก็ไม่ประหม่าเหมือนเมื่อก่อนแล้ว มันทำให้โอกาสในชีวิตเราเปิดกว้างขึ้นจริงๆ นะครับ อย่างตอนที่ผมอยากจะลองฝึกพูดกับเจ้าของภาษาจริงๆ เพื่อทดสอบสิ่งที่ฝึกมา หรืออยากให้มีคนช่วยแก้ไขการออกเสียงให้ถูกต้องมากขึ้น ผมก็มองหาตัวช่วยอย่าง 51Talk เพื่อจะได้มีคนคอยแก้ไขและแนะนำ มันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจครับ ที่สำคัญคือมันทำให้เราได้ใช้จริง

ใครที่กำลังท้อกับการฝึกภาษาอังกฤษ ลองเอาวิธี eng breaking แบบบ้านๆ ของผมไปปรับใช้ดูนะครับ ไม่ต้องหรูหราอะไรเลย แค่ลงมือทำจริงจัง ผมว่าเห็นผลแน่นอน สู้ๆ ครับ!