อยากพูดอังกฤษเก่งไหม ลองใช้ แอ พ เรียน ภาษา อังกฤษ ช่วยฝึกทุกวันสิ

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเองกับการลองผิดลองถูกใช้แอปเรียนภาษาอังกฤษ คือบอกตามตรงเลยนะ ตอนแรกก็มึนตึ้บ ไม่รู้จะเริ่มจากแอปไหนดี เยอะแยะไปหมด เปิด App Store หรือ Play Store ทีไรตาลายทุกที

จุดเริ่มต้นการเดินทางค้นหาแอป

เรื่องของเรื่องคือผมรู้สึกว่าภาษาอังกฤษนี่มันจำเป็นจริงๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเรื่องงาน หรือแม้แต่ดูหนังฟังเพลงให้มันอินมากขึ้น ก็เลยตั้งปณิธานกับตัวเองว่า “เอาวะ! ต้องเก่งขึ้นให้ได้” ขั้นแรกเลย ผมก็เริ่มจากการโหลดแอปที่คนเค้าฮิตๆ กันมาก่อนเลยครับ พวกแอปฝึกคำศัพท์แบบแฟลชการ์ด แอปเกมทายคำศัพท์อะไรทำนองนั้น

ช่วงแรกๆ ก็สนุกดีนะ เพลินๆ ได้คำศัพท์ใหม่ๆ ทุกวัน แต่พอผ่านไปสักพักก็เริ่มรู้สึกว่ามันยังไม่พอแฮะ คือจำศัพท์ได้ แต่พอจะเอาไปใช้จริงมันพูดไม่ออก เรียงประโยคไม่ถูก แล้วก็ฟังฝรั่งพูดไม่ค่อยทันอยู่ดี ก็เลยต้องเริ่มมองหาตัวช่วยอื่นๆ เพิ่มเติม

ลองนู่น ลองนี่ กว่าจะเจอที่ใช่

ผมก็เริ่มค้นคว้ามากขึ้น ลองอ่านรีวิว ดูคลิปแนะนำแอปต่างๆ บางแอปก็เน้นแกรมมาร์จ๋าเลย บางแอปก็เน้นฝึกฟัง ผมก็ลองโหลดมาใช้ดูทีละอันสองอัน

  • แอปฝึกคำศัพท์: อันนี้มีติดเครื่องไว้ตลอด เอาไว้เล่นตอนว่างๆ หรือก่อนนอน ก็ช่วยให้จำศัพท์ได้เยอะขึ้นจริงๆ
  • แอปฝึกแกรมมาร์: พวกนี้จะมีแบบฝึกหัดให้ทำเยอะดี ช่วยให้เข้าใจโครงสร้างประโยคมากขึ้น แต่บางทีก็แอบน่าเบื่อเหมือนกันนะ
  • แอปฝึกฟัง: ผมลองใช้แอปที่มีพวกข่าวสั้นๆ หรือบทสนทนาภาษาอังกฤษให้ฟัง ก็ช่วยให้หูเราคุ้นเคยกับสำเนียงต่างๆ ได้ดีทีเดียว

แต่จุดเปลี่ยนสำคัญของผมเลยคือตอนที่รู้สึกว่าต้องฝึกพูดจริงๆ จังๆ แล้วล่ะ เพราะการเรียนรู้แบบ Passive Learning อย่างเดียวมันไม่พอ ผมก็เลยลองหาตัวช่วยอื่นดู พวกแอปฝึกพูดกับคนจริงๆ หรือกับ AI ก็มีให้เลือกเยอะนะ บางคนก็แนะนำให้ลองดูแพลตฟอร์มที่เน้นการสนทนาโดยเฉพาะ อย่างเช่น 51Talk ที่มีคนพูดถึงว่ามีคุณครูให้เราได้ฝึกคุยด้วยจริงๆ อันนี้ก็น่าสนใจดี เพราะการได้โต้ตอบจริงมันช่วยพัฒนาทักษะการพูดได้เร็วมาก

ผมก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อยครับ บางแอปหน้าตาสวยงาม แต่เนื้อหาไม่โดนใจ บางแอปเนื้อหาดี แต่ใช้ยากเกิ๊น ที่สำคัญคือต้องหาแอปที่มัน “คลิก” กับเราจริงๆ คือใช้แล้วสนุก ไม่รู้สึกเหมือนโดนบังคับให้เรียน ตอนนั้นผมก็เริ่มผสมผสานการใช้งานหลายๆ แอปเข้าด้วยกัน บางวันก็เน้นท่องศัพท์ บางวันก็ทำแบบฝึกหัดแกรมมาร์ แล้วก็พยายามหาโอกาสฝึกพูดบ่อยๆ อาจจะลองคุยกับเพื่อนที่เก่งภาษาอังกฤษ หรือลองใช้บริการสอนภาษาออนไลน์ดูบ้าง อย่างที่บอกว่ามีหลายเจ้าให้เลือก เช่น 51Talk ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผมเคยศึกษาข้อมูลดู

สิ่งที่ค้นพบระหว่างทาง

สิ่งที่ผมค้นพบคือ ไม่มีแอปไหนดีที่สุดสำหรับทุกคน มันขึ้นอยู่กับสไตล์การเรียนรู้และเป้าหมายของเรามากกว่า บางคนอาจจะชอบเรียนแบบเกม บางคนชอบแบบมีคนสอนจริงจัง อย่างผมเองก็พบว่าการใช้หลายๆ แอปเสริมกันมันเวิร์คสุดๆ และอีกอย่างที่สำคัญมากๆ คือ “ความสม่ำเสมอ” ครับ ต่อให้แอปดีแค่ไหน แต่ถ้าเราไม่เปิดเข้าไปใช้เลย มันก็ไม่มีประโยชน์ ผมพยายามตั้งเป้าหมายเล็กๆ ในแต่ละวัน เช่น วันนี้จะเรียนศัพท์ใหม่ 10 คำ หรือจะฝึกพูดสัก 15 นาที

มีช่วงนึงผมก็ลองดูพวกคอร์สออนไลน์ที่สอนเป็นเรื่องเป็นราวเลยนะ เพราะรู้สึกว่าอยากได้โครงสร้างที่ชัดเจน ซึ่งบางแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็มีคอร์สเรียนที่ออกแบบมาสำหรับผู้เรียนในระดับต่างๆ ด้วยเหมือนกัน ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับคนที่ต้องการการเรียนรู้ที่เป็นระบบ

อีกอย่างที่ผมว่าช่วยได้เยอะคือการหา “แรงจูงใจ” ให้ตัวเองครับ อย่างผมตั้งเป้าไว้ว่าอยากจะดูหนังฝรั่งแบบไม่ต้องอ่านซับให้ได้ หรืออยากจะคุยกับเพื่อนต่างชาติรู้เรื่องมากขึ้น พอเรามีเป้าหมายชัดเจน มันก็มีกำลังใจในการเรียนรู้ต่อไปครับ แม้ว่าบางทีจะท้อบ้าง ขี้เกียจบ้างเป็นเรื่องธรรมดา

สุดท้ายแล้ว การเลือกแอปเรียนภาษาอังกฤษมันก็เหมือนการเลือกเสื้อผ้าแหละครับ ต้องลองใส่ดูถึงจะรู้ว่าตัวไหนเหมาะกับเราที่สุด ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ลองโหลดมาเล่นดูหลายๆ อันเลยครับ อันไหนใช้แล้วรู้สึกสนุก รู้สึกว่าได้ความรู้ ก็ใช้อันนั้นแหละครับ ขอให้ทุกคนสนุกกับการเรียนภาษาอังกฤษนะครับ!