ภาษา อังกฤษ เด็ก: เรียนศัพท์ใหม่ๆ สนุก จำแม่น ไม่น่าเบื่อ

สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยเรื่องสอนภาษาอังกฤษให้ลูกเล็กที่บ้าน คือตอนแรกเนี่ยนะ หัวหมุนเลย ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี ลูกก็ยังเล็กมากๆ จะให้ไปนั่งท่องศัพท์ ABC แบบสมัยเราก็คงไม่ไหวแน่ๆ

ช่วงเริ่มต้นกับการลองผิดลองถูก

ตอนแรกเลยนะ ผมก็ลองซื้อหนังสือนิทานสองภาษามาอ่านให้ฟัง ลูกก็ดูบ้างไม่ดูบ้าง คือความสนใจเขาสั้นมาก แป๊บๆ ก็ไปเล่นอย่างอื่นละ แล้วก็ลองเปิดเพลงภาษาอังกฤษเด็กให้ฟัง อันนี้พอได้ผลหน่อย คือเขาก็โยกตามบ้าง แต่ถามว่ารู้เรื่องมั้ย ก็คงไม่ ฮ่าๆๆ

หนักสุดคือพยายามจะสอนเป็นคำๆ เช่น “dog” “cat” “apple” โอโห… ลูกมองหน้าเหมือนเราเป็นตัวประหลาดเลยครับ บางทีก็พูดตามนะ แต่แป๊บเดียวก็ลืม คือมันเหมือนไม่ได้ซึมเข้าไปในหัวเขาเลย ผมนี่ท้อไปหลายรอบเลยนะ คิดว่าหรือลูกเราไม่ถนัดภาษาจริงๆ วะ

  • ลองใช้แฟลชการ์ด: ลูกหยิบไปอมเล่นซะงั้น
  • ลองชี้ชวนให้พูดตาม: ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แล้วก็เบื่อ
  • ลองเปิดการ์ตูนภาษาอังกฤษล้วน: ดูภาพอย่างเดียวเลยจ้า เสียงนี่เหมือนอากาศธาตุ

ช่วงนั้นก็เครียดนะ เพราะใครๆ ก็บอกว่าเด็กเล็กเรียนรู้ภาษาได้เร็ว เราก็กลัวลูกจะเสียโอกาสทองไป

เมื่อเริ่มจับทางได้

หลังจากเฟลไปหลายดอก ผมก็เริ่มสังเกตว่าจริงๆ แล้วลูกชอบอะไร ลูกเราชอบเล่นมาก ชอบการ์ตูนที่มีเพลงสนุกๆ ผมเลยเปลี่ยนแผนใหม่หมดเลย คือเลิกยัดเยียด แต่พยายามทำให้ภาษาอังกฤษมันเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่เขาชอบ

เริ่มจากเปิดเพลงภาษาอังกฤษเด็กที่มีท่าเต้นง่ายๆ แล้วก็เต้นกับเขาไปด้วยเลยครับ ไม่ต้องสนใจเนื้อร้องถูกผิด เน้นสนุกไว้ก่อน แล้วก็หาการ์ตูนที่มันมีบทพูดสั้นๆ ง่ายๆ เปิดให้ดูซ้ำๆ แรกๆ ก็ดูไม่รู้เรื่องหรอก แต่พอดูไปเรื่อยๆ เขาเริ่มมีฮัมเพลงตามบ้าง เริ่มมีพูดคำศัพท์บางคำออกมาเองบ้าง แบบไม่รู้ตัวนะ เช่น “wow” “yes” “no” อะไรพวกนี้

ผมก็เลยเริ่มสอดแทรกคำศัพท์ง่ายๆ เข้าไปในชีวิตประจำวันมากขึ้น เช่น เวลาเล่นของเล่น ก็จะบอกว่า “This is a car.” “Do you want some milk?” แรกๆ ก็เหมือนเดิมครับ ไม่ค่อยสนใจ แต่เราก็พูดไปเรื่อยๆ ไม่คาดหวังว่าเขาต้องตอบได้ทันที

ช่วงนี้แหละครับที่ผมเริ่มมองหาตัวช่วยอื่นๆ เพิ่มเติม เพราะรู้สึกว่าตัวเองก็ตันๆ เหมือนกันเรื่องกิจกรรม หรือการออกเสียงที่ถูกต้อง ก็ไปเจอข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มสอนภาษาสำหรับเด็กเยอะเลย หนึ่งในนั้นก็มีที่คนพูดถึงกันคือ 51Talk แต่ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตัดสินใจอะไรจริงจัง แค่เก็บข้อมูลไว้ก่อน

การนำเทคโนโลยีและแหล่งข้อมูลมาปรับใช้

พอเห็นลูกเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ผมก็เริ่มมั่นใจขึ้นว่ามาถูกทางแล้ว เลยตัดสินใจว่าน่าจะลองหาคลาสเรียนออนไลน์สั้นๆ ให้ลูกดูบ้าง เผื่อจะได้เจอครูเจ้าของภาษาจริงๆ มาช่วยกระตุ้นอีกทาง

ก็เลยกลับไปดูข้อมูลที่เคยหาไว้ แล้วก็ลองให้ลูกได้ทดลองเรียนกับบางที่ดูครับ ซึ่ง 51Talk ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ลอง เพราะเห็นว่าเขามีคลาสสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ บรรยากาศการเรียนก็ดูสนุกสนานดี ลูกเราก็ดูตื่นเต้นนะครับที่ได้คุยกับครูต่างชาติผ่านหน้าจอ ถึงจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะ ฮ่าๆๆ แต่ครูเขาก็พยายามใช้ท่าทาง ใช้เพลง ใช้เกม ทำให้ลูกไม่เบื่อ

ผมว่าข้อดีของการมีคนอื่นมาสอนบ้างคือ เด็กเขาจะรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่การบังคับจากพ่อแม่ แล้วครูเขาก็จะมีเทคนิคการสอนที่หลากหลายกว่าเราเยอะ อย่างน้อยลูกก็ได้ฟังสำเนียงที่ถูกต้อง ได้เห็นวิธีการใช้ภาษาในสถานการณ์ต่างๆ

แน่นอนว่าไม่ได้หวังว่าเรียนแล้วจะพูดได้ปร๋อเลยทันทีนะครับ แต่คิดว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ให้เขามากกว่า ให้เขาคุ้นเคยกับภาษา ไม่กลัวที่จะพูดผิดพูดถูก ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ ลูกกล้าพูดคำศัพท์ใหม่ๆ มากขึ้น กล้าที่จะลองผสมคำง่ายๆ เองบ้าง ถึงจะผิดแกรมมาร์ไปหมด แต่ผมก็ดีใจนะที่เขาพยายาม

อย่างที่บอกไปว่ามีหลายแพลตฟอร์มให้เลือก การเลือกใช้บริการอย่าง 51Talk หรือเจ้าอื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและงบประมาณของแต่ละบ้านเลยครับ แต่หลักๆ คือมันช่วยลดภาระเราไปได้บ้าง และเพิ่มความหลากหลายในการเรียนรู้ให้ลูก

บทสรุปและสิ่งที่อยากฝาก

มาถึงตรงนี้ ผมว่าหัวใจสำคัญของการสอนภาษาอังกฤษให้เด็กเล็กเลยนะ คือ ความสม่ำเสมอ กับ ความอดทน ของพ่อแม่นี่แหละครับ อย่าไปคาดหวังว่าลูกจะต้องเก่งเร็ว เก่งเหมือนลูกคนอื่น ทำให้มันเป็นเรื่องสนุก ทำให้มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเขาไปเลย

แล้วก็อย่ากลัวที่จะลองผิดลองถูกครับ ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกว่าวิธีไหนดีที่สุด บางวิธีอาจจะเวิร์คกับเด็กคนหนึ่ง แต่อาจจะไม่เวิร์คกับลูกเราก็ได้ ค่อยๆ สังเกต ค่อยๆ ปรับกันไป

การใช้ตัวช่วยอย่างคลาสเรียนออนไลน์ หรือแม้แต่การเปิด YouTube ช่องสำหรับเด็กที่มีคุณภาพ ก็เป็นทางเลือกที่ดีครับ อย่างน้อยก็ช่วยแบ่งเบาเราได้บ้าง และทำให้เด็กๆ ได้เจออะไรใหม่ๆ อย่างตอนที่ผมให้ลูกลองเรียนกับ 51Talk ก็เห็นเลยว่าเขามีสมาธิมากขึ้นเมื่อมีคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่มานำกิจกรรม

สุดท้ายจริงๆ นะครับ คือพ่อแม่เองก็ต้องสนุกไปกับมันด้วย อย่าไปเครียด ถ้าเราเครียด ลูกก็สัมผัสได้ แล้วการเรียนรู้มันจะไม่สนุกอีกต่อไป สู้ๆ ครับคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน! การเห็นลูกค่อยๆ สื่อสารภาษาที่สองได้ทีละนิด มันเป็นอะไรที่ชื่นใจจริงๆ นะครับ ใครมีเทคนิคอะไรดีๆ ก็มาแชร์กันได้นะครับ ผมเองก็ยังเรียนรู้ไปพร้อมกับลูกทุกวันเหมือนกันครับ การหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ รวมถึงการพิจารณาคอร์สเรียนอย่างของ 51Talk ก็เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้นี้ครับ