สวัสดีครับทุกคน วันนี้ก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงของผมเลยนะ เกี่ยวกับการให้กำลังใจคนอื่นเป็นภาษาอังกฤษนี่แหละ
เรื่องของเรื่องคือ มีช่วงนึงเพื่อนผมมันดูแย่ๆ มากเลยครับ ดูท้อแท้กับชีวิตสุดๆ งานก็ไม่ดี เรื่องส่วนตัวก็เยอะ ผมเองก็อยากจะช่วยนะ แต่บางทีคำพูดปลอบใจภาษาไทยเรามันก็ฟังดูซ้ำๆ เดิมๆ ไง บางทีพูดไปเพื่อนก็อาจจะรู้สึกว่า “เออ รู้แล้ว” อะไรแบบนี้
จุดเริ่มต้นการค้นคว้า
ทีนี้ผมก็นึกขึ้นได้ว่า เอ้อ ลองให้กำลังใจเป็นภาษาอังกฤษดูไหม เผื่อมันจะฟังดูแปลกใหม่ หรือเพื่อนอาจจะรู้สึกดีขึ้นจริงๆ ก็ได้ เพราะเพื่อนผมคนนี้มันก็ชอบดูหนังฝรั่ง ฟังเพลงสากลอยู่แล้วด้วย เลยเริ่มลองค้นหาเลยครับ พวกวลีให้กำลังใจในภาษาอังกฤษเนี่ยแหละ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แค่อยากจะลองดู
ผมนั่งเปิดคอม แล้วก็พิมพ์ลงไปในช่องค้นหาเลยครับ “how to encourage someone in English” อะไรทำนองนั้น ตอนแรกก็งงๆ นะครับ ไม่รู้จะเริ่มจากคำไหนดี เพราะมันก็มีเยอะแยะไปหมด แต่พอลองคลิกเข้าไปดูตามเว็บต่างๆ ก็เริ่มเห็นภาพมากขึ้น ผมก็จดคำที่คิดว่าน่าสนใจ แล้วก็ดูง่ายๆ ไม่ซับซ้อนมากนัก
- “Hang in there!” – อันนี้เจอบ่อยมาก ความหมายก็ประมาณว่า สู้ๆ นะ อดทนไว้ก่อน อย่าเพิ่งถอดใจ ผมว่ามันฟังดูเข้าใจง่ายดี
- “Keep going!” – ลุยต่อเลย! อย่าหยุด! อันนี้ก็ตรงๆ ดี ให้ความรู้สึกว่าเราเชียร์อัพเขาอยู่
- “You can do it!” – เธอทำได้อยู่แล้ว! ผมว่าคำนี้เบสิกแต่ทรงพลังมากนะ มันเหมือนเป็นการย้ำความเชื่อมั่นในตัวเขา
- “Don’t give up!” – อย่าเพิ่งยอมแพ้นะ! คล้ายๆ กับ Hang in there แต่เน้นไปที่การไม่ล้มเลิก
- “Things will get better.” – เดี๋ยวอะไรๆ มันก็ดีขึ้นเอง อันนี้เหมาะกับเวลาที่สถานการณ์มันดูแย่ ให้ความหวังดี
- “I’m here for you.” – ฉันอยู่ตรงนี้เพื่อเธอนะ คำนี้ผมว่าสำคัญมาก มันทำให้เขารู้สึกว่าไม่ได้อยู่คนเดียว
ผมก็นั่งอ่าน นั่งทำความเข้าใจแต่ละคำอยู่พักใหญ่เลยครับ พยายามนึกภาพตามว่าถ้าเราพูดคำนี้ออกไป คนฟังจะรู้สึกยังไง
ลงมือปฏิบัติจริง
พอได้วลีมาประมาณนึงแล้ว ผมก็ลองเอาไปใช้กับเพื่อนดูเลยครับ ตอนแรกก็เกร็งๆ นิดหน่อยนะ กลัวพูดผิดพูดถูก หรือกลัวเพื่อนจะงงว่าทำไมวันนี้มาแปลก แต่ก็เอาน่ะ ลองดู ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย
ผมก็เริ่มจากง่ายๆ ก่อน อย่างเช่น เวลาเพื่อนบ่นว่าเหนื่อย หรือท้อกับงาน ผมก็พิมพ์แชทไปว่า “Hang in there! Things will get better soon.” (อดทนไว้นะ เดี๋ยวอะไรๆ ก็ดีขึ้นในไม่ช้า) หรือถ้าเพื่อนกำลังจะไปทำอะไรยากๆ เช่น ไปพรีเซนต์งาน ผมก็จะส่งข้อความไปว่า “You got this! I believe in you.” (เธอทำได้อยู่แล้ว ฉันเชื่อในตัวเธอนะ) ผมเติม “You got this!” เข้าไปด้วย มันดูเป็นกันเองดี
มีครั้งนึงเพื่อนผมมันเฟลมากๆ เพราะผลงานที่ทำไปมันไม่เป็นอย่างที่หวัง ผมก็โทรไปคุยกับมันเลย แล้วก็พูดว่า “Hey, don’t be too hard on yourself. You did your best. Keep going!” (เฮ้ อย่าโทษตัวเองหนักไปเลย นายทำดีที่สุดแล้ว สู้ต่อไปนะ) ตอนพูดก็พยายามใส่อารมณ์ความรู้สึกจริงๆ เข้าไปด้วยนะ ไม่ใช่พูดแบบท่องจำ
ผลลัพธ์ที่ได้และสิ่งที่เรียนรู้
ผลลัพธ์ที่ได้คือ เพื่อนมันก็ดูมีกำลังใจขึ้นนะครับ อย่างน้อยก็ยิ้มได้ หรือตอบกลับมาว่า “Thanks man!” อะไรแบบนี้ มันทำให้ผมรู้สึกว่าเออ การให้กำลังใจด้วยภาษาอื่นมันก็เวิร์คนะ มันอาจจะสร้างความรู้สึกที่แตกต่างออกไปได้จริงๆ
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ก็คือ บางทีการเปลี่ยนวิธีพูด เปลี่ยนภาษา มันก็ช่วยสร้างบรรยากาศใหม่ๆ ได้เหมือนกันครับ ไม่จำเป็นต้องใช้คำหรูหราอะไรเลย คำง่ายๆ สั้นๆ นี่แหละ ถ้าออกมาจากใจจริง มันก็ส่งถึงคนฟังได้ และการที่เราพยายามหาคำพูดใหม่ๆ มาใช้ มันก็แสดงให้เห็นว่าเราใส่ใจเขาจริงๆ นะครับ
อีกอย่างคือ ผมเองก็ได้ฝึกภาษาอังกฤษไปในตัวด้วยแหละครับ จากที่ไม่ค่อยกล้าพูด ก็ได้ลองพูด ได้ลองใช้จริง มันก็ทำให้เรามั่นใจมากขึ้น ใครที่กำลังมองหาวิธีให้กำลังใจคนรอบข้าง ลองเอาวิธีนี้ไปปรับใช้ดูนะครับ ไม่เสียหายแน่นอน ผมว่ามันเป็นการฝึกภาษาอังกฤษไปในตัวด้วยแหละ ฮ่าๆ อย่างน้อยก็ได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ดูครับ