สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยนะ เรื่อง ‘ไม่เป็นไร’ เนี่ย เวลาจะพูดเป็นภาษาอังกฤษ มันไม่ได้ง่ายๆ เหมือนแปลตรงตัวเลยครับ ผมเองก็เคยหัวหมุนกับมันมาพักใหญ่เลย
ตอนแรกๆ เลยนะ ผมก็คนนึงล่ะ ที่นึกว่า ‘ไม่เป็นไร’ ก็คงประมาณ ‘No problem’ หรือ ‘It’s okay’ ใช้มันดะไปหมดทุกสถานการณ์เลย คิดว่ามันครอบจักรวาล ใครพูดอะไรมา ขอบคุณ ขอโทษ ทำของหล่นใส่ เราก็ตอบ ‘No problem’ ลูกเดียวเลย บางทีก็มี ‘You’re welcome’ บ้าง ถ้าเค้าขอบคุณมา แต่ส่วนใหญ่ก็ติดปาก ‘No problem’ นี่แหละ
แต่พอใช้ไปใช้มา เอ๊ะ… บางทีมันก็ฟังดูทะแม่งๆ ไงไม่รู้ เหมือนมันยังไม่สุด ไม่ใช่ฟีลลิ่ง ‘ไม่เป็นไร’ แบบไทยๆ ของเราอะครับ ที่มันจะมีความหมายกว้างกว่านั้นเยอะ ทั้งแบบ “ไม่ต้องกังวล” “เรื่องเล็กน้อย” “ช่างมันเถอะ” อะไรทำนองนี้ ผมก็เริ่มสังเกตฝรั่งจริงๆ เวลาเขาพูด หรือบางทีก็ลองผิดลองถูกไปเรื่อย ค่อยๆ เก็บเล็กผสมน้อยเอา
จนผมเริ่มเก็ตว่า เห้ย มันแล้วแต่สถานการณ์ว่ะ! คำว่า ‘ไม่เป็นไร’ คำเดียวเนี่ย มันแตกหน่อไปได้หลายอย่างเลยในภาษาอังกฤษ ผมเลยลองลิสต์ๆ ดูจากที่เคยใช้แล้วรู้สึกว่า เออ มันใช่ มันได้ฟีลลิ่งใกล้เคียง
แล้วมันมีอะไรบ้างล่ะ? ที่ผมลองใช้แล้วเวิร์คๆ นะ
- เวลาคนมาขอบคุณเรามากๆ: ตอนแรกผมก็ใช้ ‘You’re welcome’ แหละ แต่มันดูเป็นทางการไปนิด บางทีถ้าอยากให้ดูเป็นกันเองขึ้น ผมลองใช้ “Don’t mention it.” หรือ “No worries.” หรือถ้าแบบสนิทๆ หน่อยก็ “Anytime.” ไปเลย มันได้ฟีลแบบ “ยินดีเสมอ” “เรื่องเล็กน่า” มากกว่าเยอะเลย
- เวลาคนมาขอโทษเราเรื่องเล็กๆ น้อยๆ: อันนี้ “No problem.” หรือ “It’s alright.” หรือ “That’s okay.” ก็ยังพอได้อยู่นะครับ แต่ถ้าอยากให้ดูชิลๆ ไม่ถือสาจริงๆ ผมลองใช้ “Don’t worry about it.” หรือ “Never mind.” มันจะดูแบบ “เออๆ ช่างมันเหอะ ไม่ต้องคิดมาก” ดี
- เวลาที่เราทำอะไรให้ใครแล้วเขาเกรงใจมากๆ: เช่น ช่วยถือของหนักๆ หรือให้ยืมของสำคัญ แล้วเค้าแบบโอ้โห ขอบคุณซ้ำๆ เกรงใจสุดๆ ผมจะบอกว่า “It’s nothing.” หรือ “Think nothing of it.” คือแบบ “เรื่องเล็กน้อยมาก อย่าไปใส่ใจเลย” มันช่วยลดความเกรงใจของเขาได้ดีเลย
- เวลาเกิดเรื่องผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ได้สลักสำคัญอะไร: เช่น เพื่อนทำปากกาตก หรือเดินชนนิดหน่อย ผมว่า “It doesn’t matter.” หรือ “No big deal.” ก็สื่อได้ดีเลยนะ ประมาณว่า “ไม่เป็นไรเลย เรื่องจิ๊บๆ”
- เวลาอยากจะบอกว่า “ตามสบายเลย”: อันนี้อาจจะคนละ ‘ไม่เป็นไร’ กับข้างบนหน่อย แต่บางทีมีคนถามว่า “ขอนั่งตรงนี้ได้ไหม” หรือ “ขอยืมอันนั้นหน่อยได้ไหม” ถ้าเราโอเค ผมก็ใช้ “Sure, go ahead.” หรือ “Be my guest.” มันก็ให้ความรู้สึกว่า “ได้เลย ไม่เป็นไร ตามสบาย”
สรุปจากที่ผมลองผิดลองถูกมานะ
ผมว่ามันไม่มีคำแปล ‘ไม่เป็นไร’ แบบเป๊ะๆ คำเดียวในภาษาอังกฤษหรอกครับ มันคือการจับความรู้สึกของคำว่า ‘ไม่เป็นไร’ ในแต่ละบริบท แล้วก็เลือกคำภาษาอังกฤษที่มันให้ความรู้สึกใกล้เคียงที่สุดมากกว่า แรกๆ ก็งงๆ หน่อยครับ ต้องอาศัยการสังเกต การฟังเยอะๆ แล้วก็กล้าที่จะลองใช้ดู ผิดบ้างถูกบ้างก็ไม่เป็นไร (ฮ่าๆ อันนี้ใช้ ‘It’s okay’ ได้) เดี๋ยวเราก็จะค่อยๆ ชินแล้วก็เลือกใช้คำได้เป็นธรรมชาติเองครับ
ก็หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ บ้างนะครับ ลองเอาไปปรับใช้กันดู ใครมีวิธีอื่นหรือคำอื่นๆ ที่ใช้แล้วเวิร์คก็มาแชร์กันได้นะครับ!