หาที่เรียนภาษาอังกฤษกับฝรั่งตัวต่อตัว เน้นใช้งานได้จริง มาทางนี้

จุดเริ่มต้นของการอยากลองเรียนกับฝรั่งตัวต่อตัว

คือเรื่องของเรื่องมันเริ่มจากที่ผมน่ะนะ รู้สึกว่าเรียนภาษาอังกฤษในห้องเรียนแบบกลุ่มใหญ่ๆ มันไม่ได้ผลว่ะ แบบว่าครูคนเดียว สอนนักเรียนยี่สิบสามสิบคน มันจะไปทั่วถึงได้ไง บางทีเราก็ไม่กล้าถาม ไม่กล้าพูด กลัวพูดผิดแล้วเพื่อนล้ออีกต่างหาก เรียนมาตั้งนานแกรมมาร์เป๊ะนะ แต่พอเจอฝรั่งตัวเป็นๆ ใบ้กินเลยจ้า พูดไม่ออก บอกไม่ถูก เลยคิดว่า เอ้อ ลองหาเรียนแบบตัวต่อตัวกับฝรั่งดูดีกว่าไหม น่าจะได้พูดเยอะขึ้น

ตอนนั้นก็คิดอยู่นานนะว่าจะเอาไงดี เพราะไอ้ครั้นจะไปลงคอร์สแพงๆ ตามสถาบันดังๆ ก็สู้ราคาไม่ไหวจริงๆ มันแพงเกิ๊น แล้วก็ไม่รู้ว่าจะเจอครูแบบไหนอีก จะเหมือนเดิมหรือเปล่าก็ไม่รู้ เลยตัดสินใจว่า เอาวะ ลองหาครูฝรั่งสอนตัวต่อตัวนี่แหละ น่าจะตอบโจทย์สุดละ

การหาครูฝรั่ง และความรู้สึกแรกที่ได้เจอ

การหาครูเนี่ย ก็ไม่ง่ายไม่ยากนะ ผมก็ลองเสิร์ชๆ ดูตามเว็บ ตามกลุ่มเฟซบุ๊กที่เขารับสอนพิเศษภาษาอังกฤษอะไรทำนองนั้นแหละ จนไปเจอครูคนนึง โปรไฟล์ดูโอเค เขาเป็นคนอเมริกันเลยนะ รีวิวจากคนที่เคยเรียนด้วยก็ดูดี เลยลองติดต่อไปดู ตอนแรกก็คุยกันผ่านแชทก่อน ก็ถามรายละเอียดเรื่องค่าสอน เวลา สถานที่อะไรพวกนี้แหละ

หาที่เรียนภาษาอังกฤษกับฝรั่งตัวต่อตัว เน้นใช้งานได้จริง มาทางนี้

พอตกลงนัดวันเรียนครั้งแรกได้เท่านั้นแหละ โอ้โห คืนก่อนเรียนนี่แทบนอนไม่หลับเลย มันตื่นเต้นปนกังวลไปหมด คิดไปสารพัดว่าถ้าเขาพูดเร็วแล้วเราฟังไม่ทันจะทำไง ถ้าเราพูดผิดๆ ถูกๆ เขาจะรำคาญไหม กลัวหน้าแตกสุดๆ วันไปเรียนนี่แต่งตัวอย่างดี พกดิคชันนารีไปด้วยเผื่อฉุกเฉิน ฮ่าๆๆ

ประสบการณ์เรียนจริง มันเป็นจะอี้!

พอได้เริ่มเรียนจริง โอ้โห มันคนละเรื่องกับที่เคยเรียนมาเลยว่ะ ครูเขาก็ชวนคุยเรื่องทั่วไปก่อน ถามว่าวันนี้เป็นไง ทำอะไรมาบ้าง ให้เราผ่อนคลาย ไม่ใช่เริ่มมาก็อัดแกรมมาร์ใส่หัวเลย เขาจะคอยฟังที่เราพูด แล้วก็แก้ให้ตรงนั้นเลยนะ ไม่ใช่ปล่อยผ่านๆ จุดนี้แหละที่ผมว่ามันเวิร์คมาก เพราะเราจะรู้เลยว่าเราพลาดตรงไหน แล้วจำได้ดีกว่าเดิมเยอะ

  • เน้นพูดจริง ใช้จริง: ส่วนใหญ่จะเน้นการสนทนาเลย เขาจะถามคำถาม ชวนคุยเรื่องที่เราสนใจ เรื่องงานอดิเรก หนัง เพลง ทำให้เราอยากพูดมากขึ้น จากที่เคยกลัวๆ ก็กล้าพูดมากขึ้นเรื่อยๆ บางทีก็มีโรลเพลย์สถานการณ์ต่างๆ เช่น สั่งอาหาร ถามทาง สนุกดี
  • แก้การออกเสียง: อันนี้สำคัญมาก บางคำเราออกเสียงผิดมาตลอดชีวิต พอครูแก้ให้ แล้วให้ลองพูดตามซ้ำๆ มันก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง จากที่เคยพูดคำว่า ‘three’ เป็น ‘tree’ ตลอด ครูเขาก็จะแบบ ‘No, no, tongue out a bit!’ แล้วก็ทำให้ดู มันก็ค่อยๆ ได้
  • วัฒนธรรมก็ได้เรียนรู้: เวลาคุยกัน มันไม่ใช่แค่เรื่องภาษาอย่างเดียว แต่ได้เรียนรู้วัฒนธรรม ความคิดของเขาไปด้วย เช่น เรื่องเทศกาลต่างๆ หรือมารยาททางสังคมของเขา มันเปิดโลกดีนะ ได้รู้ว่าเออ ฝรั่งเขาคิดแบบนี้นะ

มีอยู่วันนึงนะ ผมพยายามจะเล่าเรื่องตลกที่ไปเจอมาให้ครูฟัง แต่ศัพท์มันไม่อำนวย เล่าไปก็ติดๆ ขัดๆ พูดตะกุกตะกัก นึกคำไม่ออก ครูเขาก็ใจเย็นมาก ค่อยๆ ช่วยไกด์ ช่วยเติมคำ ถามนำไปเรื่อยๆ จนผมเล่าจบได้ ถึงมันจะทุลักทุเล แต่ครูเขาก็หัวเราะนะ (ไม่รู้หัวเราะเรื่องตลกหรือหัวเราะที่เราพูดไม่รู้เรื่อง ฮ่าๆ) แต่มันทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเยอะเลย ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองโง่อะไรแบบนั้น มันเหมือนมีเพื่อนช่วยมากกว่าเป็นครูที่คอยจับผิด

แล้วครูผมเขาก็ไม่ได้สอนตามตำราเป๊ะๆ นะ บางทีเราอยากรู้เรื่องอะไรเฉพาะทาง เช่น คำศัพท์ที่ใช้ในการทำงาน เขาก็จะไปเตรียมเนื้อหามาสอนให้ มันยืดหยุ่นดี ไม่เหมือนเรียนในห้องที่ต้องไปตามสเต็ปของหนังสืออย่างเดียว

ผลลัพธ์ที่ได้ และสิ่งที่อยากบอกต่อพี่น้อง

หลังจากเรียนมาได้สักพักใหญ่ๆ นะ ประมาณสามสี่เดือนได้ สิ่งที่เห็นชัดเลยคือ ความมั่นใจในการพูดมันเพิ่มขึ้นเยอะมาก กล้าที่จะเริ่มบทสนทนากับฝรั่งมากขึ้น ถึงจะยังพูดผิดพูดถูกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่กลัวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ฟังก็เริ่มเข้าใจมากขึ้นด้วย จากเมื่อก่อนฟังหนังฝรั่งต้องเพ่งซับไทยตลอด ตอนนี้บางทีก็พอจะเดาๆ เรื่องได้บ้างแล้วโดยไม่ต้องอ่านซับทุกคำ

หาที่เรียนภาษาอังกฤษกับฝรั่งตัวต่อตัว เน้นใช้งานได้จริง มาทางนี้

เอาจริงๆ นะ สำหรับใครที่รู้สึกว่าเรียนภาษาอังกฤษแล้วมันตันๆ ไปต่อไม่ถูก หรือเรียนมาเยอะแต่พูดไม่ได้สักที ลองเปลี่ยนมาเรียนแบบตัวต่อตัวกับฝรั่งดู ผมว่ามันเป็นอีกทางเลือกที่ดีเลยนะ มันอาจจะราคาสูงกว่าเรียนกลุ่มหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันคุ้มค่ากว่าเยอะ ไม่ต้องมานั่งเสียเวลากับสิ่งที่เราไม่ค่อยได้ใช้จริง

แต่ต้องบอกก่อนว่า มันก็ขึ้นอยู่กับตัวเราด้วยนะ ไม่ใช่ว่ามีครูดีแล้วเราจะเก่งเลย เราต้องขยันทำการบ้าน ทบทวนที่เรียนไป แล้วก็กล้าที่จะพูด กล้าที่จะผิดนอกห้องเรียนด้วย หาโอกาสใช้ภาษาอังกฤษบ่อยๆ ครูเขาช่วยเราได้ส่วนหนึ่ง ที่เหลือเราต้องลุยเอง สู้ๆ ครับทุกคน! ใครที่กำลังลังเลอยู่ ผมเชียร์ให้ลองดูสักตั้ง ไม่เสียหายหรอก ดีไม่ดีอาจจะค้นพบว่าตัวเองก็พูดอังกฤษได้คล่องปรื๋อเลยก็ได้ ใครจะไปรู้!