สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับเรื่องการลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษของผมนี่แหละครับ คือเรื่องมันเริ่มมาจากความรู้สึกแบบ… อึดอัดใจยังไงก็ไม่รู้ เวลาเห็นคนอื่นเขาพูดภาษาอังกฤษกันไฟแล่บในที่ทำงานบ้างล่ะ หรือเวลาดูหนังแล้วอยากจะเข้าใจมุกตลกฝรั่งจริงๆ แบบไม่ต้องรอซับไตเติ้ลบ้างล่ะ มันก็สะสมมาเรื่อยๆ นะครับ
จุดเริ่มต้นของการตัดสินใจ
เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้คิดว่าตัวเองโง่ภาษาอังกฤษอะไรขนาดนั้นนะครับ สมัยเรียนก็พอถูๆ ไถๆ ไปได้ แต่พอเข้าสู่วัยทำงานเนี่ย ไม่ได้ใช้มันก็ลืมสิครับท่าน! มีอยู่ช่วงนึงที่บริษัทมีโปรเจกต์ต้องคุยกับลูกค้าต่างชาติ โอ้โห… ผมนี่ใบ้กินเลยครับ ฟังรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง ตอบไปก็ตะกุกตะกัก รู้สึกแย่กับตัวเองมากเลยวันนั้น เลยเป็นจุดที่แบบ “ไม่ได้ละ ต้องทำอะไรซักอย่างแล้ว!”
ขั้นตอนการหาคอร์สเรียน
พอตัดสินใจได้ว่าจะเรียน ก็เริ่มหาข้อมูลครับ ดูรีวิวเยอะมาก ทั้งออนไลน์ ทั้งสถาบันต่างๆ คือมันเยอะจนเลือกไม่ถูกเลยจริงๆ ครับ บางที่ก็ดูหรูหราเกินไป ค่าเรียนก็แพงหูฉี่ บางที่ก็ดูบ้านๆ เกินไป กลัวสอนไม่ดี สุดท้ายผมก็ไปเจอคอร์สออนไลน์คอร์สนึงที่ดูน่าสนใจ ราคาพอรับได้ เวลาเรียนก็ยืดหยุ่นดีด้วย เพราะผมเองก็ทำงานประจำ เลยไม่อยากได้อะไรที่มันกระทบงานมากนัก

ตอนสมัครนี่ก็กรอกข้อมูลไปตามระเบียบ จ่ายเงินเรียบร้อย ใจก็ตุ๊มๆ ต่อมๆ นะ ว่าจะดีจริงไหม จะสอนเข้าใจหรือเปล่า
ประสบการณ์จริงในคลาสเรียน (ออนไลน์)
พอเริ่มเรียนวันแรกๆ ก็โอเคนะครับ เนื้อหาดูเป็นระบบดี มีวิดีโอให้ดู มีแบบฝึกหัดให้ทำ แต่พอเรียนไปสักพัก… ความขี้เกียจเริ่มมาเยือนครับ! ฮ่าๆๆ คือมันต้องมีวินัยกับตัวเองมากๆ เลยนะไอ้การเรียนออนไลน์เนี่ย ไม่มีใครมาจ้ำจี้จ้ำไชเรา
- การบ้าน: มีการบ้านทุกสัปดาห์ บางทีก็เยอะจนท้อเหมือนกัน ต้องหาเวลาหลังเลิกงานมานั่งทำ
- การฝึกพูด: อันนี้เป็นส่วนที่ผมกังวลสุด เพราะไม่ค่อยกล้าพูด กลัวผิดแกรมมาร์ แต่ในคอร์สเขาก็มีให้จับคู่ฝึกพูดกับเพื่อนร่วมคลาสคนอื่นบ้าง (ผ่านโปรแกรม) ก็เขินๆ อายๆ กันไปครับ แต่ก็สนุกดี ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ด้วย
- ครูผู้สอน: ครูผู้สอนเป็นชาวต่างชาติ สำเนียงเป๊ะมาก แต่บางทีก็พูดเร็วไปหน่อย ผมต้องตั้งใจฟังสุดๆ หรือบางทีก็ต้องย้อนวิดีโอดูซ้ำๆ
ช่วงแรกๆ ก็มีท้อบ้างนะครับ รู้สึกว่าทำไมมันยากจังวะ จำศัพท์ก็ไม่ค่อยได้ แกรมมาร์ก็งงไปหมด แต่ก็พยายามฮึดสู้ บอกตัวเองว่าเสียเงินไปแล้ว ต้องเอาให้คุ้ม! ผมเริ่มจากพยายามหาเวลานั่งทบทวนทุกวัน วันละครึ่งชั่วโมงก็ยังดี ดูหนังฝรั่งแบบเปิดซับอังกฤษบ้าง ฟังเพลงสากลแล้วดูเนื้อเพลงตามบ้าง คือพยายามเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นภาษาอังกฤษให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
ผลลัพธ์ที่ได้ และสิ่งที่เปลี่ยนไป
ถามว่าจบคอร์สแล้วเก่งขึ้นแบบพลิกฝ่ามือเลยไหม? ก็คงไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ภาษาเนี่ยมันต้องใช้เวลาและความสม่ำเสมอจริงๆ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกได้ชัดเจนเลยคือ:
- ความกล้า: ผมกล้าพูดมากขึ้น ไม่ค่อยกลัวผิดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว คิดซะว่าผิดก็แก้ไขกันไป
- ความเข้าใจ: เวลาฟังหรืออ่านภาษาอังกฤษ รู้สึกว่าเข้าใจได้เร็วขึ้น จับใจความได้ดีขึ้น
- คลังศัพท์: ก็มีศัพท์ใหม่ๆ เข้ามาในหัวเยอะขึ้น ถึงจะยังจำไม่ได้ทั้งหมดก็เถอะ
- ทัศนคติ: รู้สึกสนุกกับการเรียนภาษามากขึ้น ไม่ได้มองว่ามันเป็นเรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป
ที่สำคัญที่สุด ผมว่ามันคือการที่เราได้ “เริ่ม” ลงมือทำอะไรสักอย่างเพื่อพัฒนาตัวเองนี่แหละครับ ต่อให้ผลลัพธ์มันจะไม่ได้ออกมาเลิศเลอเพอร์เฟกต์ แต่มันก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลยใช่ไหมล่ะครับ ตอนนี้ผมก็ยังพยายามฝึกฝนด้วยตัวเองต่อไปเรื่อยๆ นะครับ ดูหนัง ฟังเพลง อ่านบทความภาษาอังกฤษ มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
ก็หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังคิดอยากจะพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองบ้างนะครับ ไม่ต้องกลัวครับ เริ่มจากก้าวเล็กๆ ก่อนก็ได้ สู้ๆ ครับ!