หาที่ ลง คอร์ส เรียน ภาษา อังกฤษ ออนไลน์ สะดวก เรียนได้ทุกที่

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาเล่าประสบการณ์ตรงๆ ของตัวเองเลย เกี่ยวกับการตัดสินใจลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษครับ คือเรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า ตัวผมเองเนี่ย รู้สึกว่าภาษาอังกฤษมันจำเป็นมากๆ ในยุคนี้ ไม่ว่าจะเรื่องงานอดิเรกส่วนตัว หรือแม้กระทั่งเรื่องงานที่ทำอยู่ประจำวัน มันเริ่มมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ

จุดเริ่มต้นและความคิดที่จะลงเรียน

คือต้องยอมรับเลยว่าเมื่อก่อนภาษาอังกฤษผมนี่คือแบบ… งูๆ ปลาๆ มากครับ พอได้ศัพท์เป็นคำๆ แต่จะให้เรียงเป็นประโยคยาวๆ หรือสื่อสารให้รู้เรื่องจริงๆ นี่คือติดขัดไปหมดเลย หลายครั้งเลยที่รู้สึกว่าตัวเองพลาดโอกาสดีๆ ไปเพราะเรื่องภาษาเนี่ยแหละครับ ทั้งเรื่องอยากจะดูหนังฝรั่งแบบไม่ต้องอ่านซับให้เสียอรรถรส หรือเวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็อยากจะคุยกับคนท้องถิ่นได้รู้เรื่องมากกว่านี้

จนกระทั่งวันหนึ่ง มันมีโปรเจกต์งานที่ค่อนข้างใหญ่เข้ามา แล้วหัวหน้าก็เปรยๆ ว่าถ้าได้คนที่คล่องภาษาอังกฤษมาช่วยประสานงานน่าจะดีมาก ตอนนั้นแหละครับ ความคิดที่ว่า “เออ… สงสัยต้องจริงจังกับการเรียนภาษาอังกฤษสักทีแล้วว่ะ” มันก็ผุดขึ้นมาในหัวเลย

ขั้นตอนการหาข้อมูลและตัดสินใจ

พอตัดสินใจได้แล้วว่าจะเรียนแน่ๆ ผมก็เริ่มจากการหาข้อมูลก่อนเลยครับ เปิดอินเทอร์เน็ตนี่แหละ แหล่งข้อมูลชั้นยอด! เสิร์ชหาสถาบันสอนภาษาอังกฤษเพียบ มีทั้งแบบเรียนตัวต่อตัว เรียนกลุ่มเล็กๆ หรือเรียนออนไลน์ ตอนนั้นก็ดูรีวิวเยอะมากครับ แต่ละที่ก็มีจุดเด่นจุดด้อยต่างกันไป บางที่เน้นแกรมมาร์จ๋าเลย บางที่เน้นสนทนา บางที่ก็มีครูเจ้าของภาษา

ผมใช้เวลาอยู่หลายวันเหมือนกันในการเปรียบเทียบ ทั้งเรื่องราคา คอร์สเรียน ตารางเวลาที่สะดวก แล้วก็วิธีการสอน ตอนนั้นก็มีเพื่อนแนะนำมาบ้างเหมือนกันครับว่าลองดูพวกแพลตฟอร์มออนไลน์สิ เพราะมันยืดหยุ่นเรื่องเวลาดี ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางด้วย ผมก็เลยลองเข้าไปดูข้อมูลของหลายๆ ที่ อย่างเช่น 51Talk ก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ผมเห็นผ่านตาบ่อยๆ และดูเหมือนจะมีคนพูดถึงเรื่องความสะดวกในการเลือกเวลาเรียนได้เองค่อนข้างเยอะ

หลังจากที่ลิสต์รายชื่อที่น่าสนใจไว้ได้ประมาณ 4-5 ที่ ผมก็เริ่มโทรไปสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมบ้าง หรือบางที่ก็มีให้ทดลองเรียนฟรีก่อนด้วย ซึ่งผมว่าดีมากๆ เลยนะ มันทำให้เราได้รู้ว่าสไตล์การสอนของเขาเข้ากับเราหรือเปล่า อย่างตอนนั้นผมก็มีโอกาสได้ลองคุยกับเจ้าหน้าที่ของ 51Talk อยู่บ้างเหมือนกันครับ เขาก็ให้ข้อมูลเรื่องคอร์สต่างๆ ได้ค่อนข้างละเอียดดี

สุดท้าย ผมก็ตัดสินใจเลือกเรียนกับที่หนึ่ง (ขออนุญาตไม่เอ่ยชื่อโดยตรงนะครับ) โดยพิจารณาจากความสะดวกเรื่องเวลาเป็นหลัก เพราะผมทำงานประจำด้วย แล้วก็ดูจากรีวิวของผู้เรียนคนอื่นๆ ประกอบกัน รวมถึงค่าใช้จ่ายที่ผมพอจะรับไหวด้วยครับ

ประสบการณ์หลังได้เริ่มเรียน

ช่วงแรกๆ ที่เริ่มเรียน บอกตามตรงเลยว่ามีท้อบ้างเหมือนกันครับ จากที่เราไม่ค่อยได้ใช้ภาษาอังกฤษมานาน พอต้องมาเริ่มเรียนจริงจัง มันก็ต้องปรับตัวเยอะเหมือนกัน ทั้งเรื่องคำศัพท์ใหม่ๆ ไวยากรณ์ที่ลืมไปแล้ว หรือแม้แต่การต้องกล้าพูดออกมา แต่ผมก็พยายามคิดว่าเราตั้งใจแล้ว ต้องทำให้ได้!

สิ่งที่ผมรู้สึกว่าได้ประโยชน์มากๆ คือการได้ฝึกพูดจริงๆ ครับ ถึงแม้จะพูดผิดๆ ถูกๆ บ้างในช่วงแรก แต่ครูผู้สอนก็พยายามแก้ไขและให้กำลังใจ ทำให้ผมเริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่เคยอายๆ ไม่กล้าพูด ก็เริ่มกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น

ผมสังเกตว่าตัวเองเริ่มฟังภาษาอังกฤษรู้เรื่องมากขึ้นด้วยนะ อย่างเวลาดูหนังหรือซีรีส์ต่างประเทศ ก็เริ่มจับใจความได้มากขึ้น ไม่ต้องคอยจ้องซับไตเติ้ลตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อนแล้ว และที่สำคัญคือ ผมเริ่มเอาภาษาอังกฤษไปใช้ในการทำงานได้บ้างแล้วครับ ถึงจะยังไม่คล่องปรื๋อ แต่ก็ถือว่าพัฒนาขึ้นกว่าเดิมเยอะมาก

ระหว่างที่เรียนคอร์สหลักไป ผมก็ยังมีการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษจากแหล่งอื่นๆ ด้วยนะครับ อย่างเช่นพวกแอปพลิเคชันสอนภาษา หรือบทความเกี่ยวกับการฝึกฝนด้วยตัวเอง บางทีก็มีเพื่อนๆ แนะนำว่าลองดูคอร์สเฉพาะทางของที่อื่นเสริมด้วยก็ได้ อย่าง 51Talk ก็มีคอร์สที่เน้นการสนทนากับครูต่างชาติโดยตรง ซึ่งก็น่าสนใจดีเหมือนกันครับ ทำให้เราได้เห็นว่ามีตัวเลือกหลากหลายในตลาด

จริงๆ แล้ว การเรียนภาษามันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกครับ แต่ละคนก็มีวิธีการเรียนรู้ที่เหมาะกับตัวเองต่างกันไป บางคนอาจจะชอบเรียนในห้องเรียนแบบดั้งเดิม บางคนอาจจะชอบเรียนออนไลน์เพราะสะดวก หรือบางคนอาจจะชอบเรียนรู้ด้วยตัวเองผ่านสื่อต่างๆ สิ่งสำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอและความตั้งใจของเราเองครับ

ถ้าให้ผมแนะนำสำหรับคนที่กำลังคิดจะลงคอร์สเรียนภาษาอังกฤษนะครับ อย่างแรกเลยคือต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าเราอยากเรียนไปเพื่ออะไร จากนั้นก็ลองหาข้อมูลของสถาบันหรือแพลตฟอร์มต่างๆ เปรียบเทียบข้อดีข้อเสียดูครับ เดี๋ยวนี้มีตัวเลือกเยอะมากจริงๆ อย่างพวกแพลตฟอร์มออนไลน์เช่น 51Talk หรือที่อื่นๆ ก็มักจะมีรายละเอียดคอร์สและราคาแจ้งไว้ชัดเจน ทำให้เราตัดสินใจได้ง่ายขึ้น และถ้าเป็นไปได้ ลองหาโอกาสทดลองเรียนดูก่อนก็ดีครับ จะได้รู้ว่าเราเข้ากับสไตล์การสอนแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า

สุดท้ายนี้ ผมก็ยังคงเรียนภาษาอังกฤษต่อไปเรื่อยๆ ครับ เพราะรู้สึกว่ามันเป็นทักษะที่สำคัญและเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อีกเยอะเลย หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังสนใจจะพัฒนาภาษาอังกฤษของตัวเองอยู่นะครับ สู้ๆ ครับทุกคน!