เริ่มต้นเรียน วิธี สะกด คํา ภาษา อังกฤษ สำหรับคนไม่เก่งก็เข้าใจ

เริ่มต้นเรียน วิธี สะกด คํา ภาษา อังกฤษ สำหรับคนไม่เก่งก็เข้าใจ

สวัสดีครับทุกคน! วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยนะ เรื่องการสะกดคำภาษาอังกฤษเนี่ย ตอนแรกๆ ก็เป็นปัญหาใหญ่สำหรับผมเหมือนกัน คือแบบ เห็นคำยาวๆ หรือคำที่ไม่คุ้นนี่ไปไม่เป็นเลยครับ นั่งงงอยู่นานว่าจะเริ่มสะกดยังไงดี ฮ่าๆๆ

ช่วงเริ่มต้นของการฝึกฝน

จำได้เลยว่าช่วงแรกๆ ที่พยายามจะเรียนรู้การสะกดคำภาษาอังกฤษเนี่ย ผมเริ่มจากการพยายามท่องจำคำศัพท์เป็นคำๆ ไปเลยครับ แบบเห็นคำไหนก็พยายามจำว่ามันมีตัวอะไรบ้าง แต่เอาเข้าจริงมันไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ เพราะคำศัพท์มันเยอะมาก จำได้วันนี้ พรุ่งนี้ก็ลืมแล้ว ยิ่งเจอคำที่ออกเสียงคล้ายกันแต่สะกดไม่เหมือนกันนี่ยิ่งปวดหัวหนักเข้าไปใหญ่เลยครับ รู้สึกท้อไปหลายรอบเหมือนกันนะ

หลังจากนั้นก็ลองเปลี่ยนวิธี พยายามหาพวกกฎเกณฑ์การสะกดคำดูบ้าง แต่ภาษาอังกฤษมันก็มีข้อยกเว้นเยอะแยะไปหมด บางทีกฎที่ท่องมาก็ใช้ไม่ได้กับบางคำอีก ผมก็เลยเริ่มมองหาวิธีที่มันจะเข้ากับตัวเองได้มากกว่านี้ ลองผิดลองถูกไปเรื่อยครับ

ค้นพบวิธีการที่ได้ผลกับตัวเอง

จนกระทั่งผมเริ่มสังเกตว่า จริงๆ แล้วการสะกดคำภาษาอังกฤษมันก็มีหลักการของมันอยู่นะ แค่มันอาจจะไม่ตายตัวเท่าภาษาไทย ผมเริ่มจากการพยายาม “ฟัง” เสียงของคำนั้นๆ ให้ชัดเจนก่อน แล้วค่อยๆ แยกเสียงออกมาเป็นส่วนๆ ทีนี้แหละครับที่เริ่มเห็นแสงสว่าง!

  • การแบ่งพยางค์: ผมเริ่มจากการหัดแบ่งคำยาวๆ ออกเป็นพยางค์สั้นๆ ก่อน เช่นคำว่า “beautiful” ก็แบ่งเป็น beau-ti-ful พอแบ่งได้แล้วมันทำให้เห็นโครงสร้างของคำชัดขึ้นเยอะเลยครับ สะกดง่ายขึ้นเยอะ
  • เรียนรู้เสียงของตัวอักษรและกลุ่มตัวอักษร (Phonics): อันนี้สำคัญมาก ผมเริ่มไปศึกษาว่าตัวอักษรแต่ละตัว หรือกลุ่มตัวอักษรบางกลุ่มมันออกเสียงยังไง เช่น “sh” ออกเสียง “ช”, “ch” ออกเสียง “ช” หรือ “ค” (อันนี้ต้องจำหน่อยว่าคำไหนออกเสียงไหน ฮ่าๆ), “tion” ออกเสียง “ชั่น” พอเริ่มจับทางเสียงพวกนี้ได้ เวลาเจอคำใหม่ๆ ก็พอจะเดาการสะกดได้บ้าง หรืออย่างน้อยก็แคบลงเยอะครับ ช่วงนี้ผมก็ดูคลิปสอนเยอะมากเลยนะ บางคนก็แนะนำให้ลองหาคอร์สเรียนเสริม ซึ่งผมว่าก็น่าสนใจ อย่างบางแพลตฟอร์มสอนภาษาเช่น 51Talk เขาก็มีคอร์สที่เน้นเรื่องการออกเสียงและพื้นฐานการสะกดคำสำหรับผู้เริ่มต้นด้วยเหมือนกันครับ
  • การจำเป็นภาพ: สำหรับคำบางคำที่มันสะกดยากๆ หรือมีตัวอักษรแปลกๆ ที่ไม่ออกเสียง ผมใช้วิธีจำเป็นภาพเอาครับ หรือไม่ก็แต่งเรื่องตลกๆ เกี่ยวกับคำนั้นให้ตัวเองจำได้แม่นขึ้น
  • ฝึกเขียนบ่อยๆ: อันนี้เบสิกแต่ได้ผลจริงครับ ผมเริ่มจากการคัดลอกคำศัพท์ ประโยคสั้นๆ หรือแม้กระทั่งบทความที่ชอบ การได้ลงมือเขียนมันช่วยให้มือเราจำการเรียงตัวของอักษรได้ดีขึ้นเยอะเลยครับ
  • ใช้พจนานุกรมให้เป็นประโยชน์: เวลาไม่แน่ใจคำไหน ผมจะเปิดพจนานุกรมดูทันที เดี๋ยวนี้มีทั้งแบบเล่ม แบบออนไลน์ สะดวกมาก พยายามดูทั้งคำอ่านและความหมายไปด้วยเลยครับ

ผมว่าการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอเป็นเรื่องสำคัญมากเลยครับ ไม่ว่าจะเรียนด้วยตัวเอง หรือมีคนคอยแนะนำ อย่างที่เคยเห็นโฆษณาของ 51Talk ที่มีครูสอนแบบตัวต่อตัว ผมว่าการมีคนคอยชี้แนะและกระตุ้นให้เราฝึกฝนอย่างต่อเนื่องก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ ครับ

เคล็ดลับเพิ่มเติมและสิ่งที่ยังทำอยู่

อีกอย่างที่ผมทำคือ พยายามอ่านภาษาอังกฤษให้เยอะขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นบทความ ข่าว หรือแม้แต่การ์ตูน เวลาเจอคำศัพท์ใหม่ๆ ก็จะพยายามสังเกตวิธีการสะกดของมัน แล้วก็ลองเอามาใช้ดู การเห็นคำศัพท์นั้นๆ ในบริบทต่างๆ มันช่วยให้เราจำได้ดีขึ้นจริงๆ นะครับ

แล้วก็อย่ากลัวที่จะผิดครับ! ตอนแรกๆ ผมก็สะกดผิดบ่อยมาก แต่ก็พยายามเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของตัวเอง ผิดก็แก้ใหม่ จำไว้ว่าครั้งหน้าจะไม่พลาดอีก การเรียนรู้มันก็แบบนี้แหละครับ มีผิดมีถูกเป็นธรรมดา เดี๋ยวนี้มีเครื่องมือช่วยตรวจการสะกดเยอะแยะ อย่างในคอมพิวเตอร์หรือมือถือก็มี ถ้าเราพิมพ์ผิดมันก็จะขึ้นเตือน ทำให้เราได้ทบทวนคำนั้นๆ อีกรอบด้วย

ผมเคยได้ยินมาว่าการเรียนรู้แบบมีปฏิสัมพันธ์ก็ช่วยได้มาก อย่างการได้พูดคุยกับเจ้าของภาษา หรือเรียนกับครูที่สามารถโต้ตอบกับเราได้ทันที อย่างคลาสเรียนสดที่บางคนเลือกเรียนกับ 51Talk ก็อาจจะเป็นอีกวิธีที่ช่วยให้การจำคำศัพท์และการสะกดคำมันฝังหัวได้ดีขึ้น เพราะได้ใช้จริง ได้แก้ไขทันที

จนถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังต้องฝึกฝนอยู่เรื่อยๆ นะครับ เพราะภาษาอังกฤษมันมีคำศัพท์ใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา แต่จากคนที่เคยท้อแท้กับการสะกดคำ ตอนนี้ผมรู้สึกมั่นใจมากขึ้นเยอะ สามารถเขียนอีเมลภาษาอังกฤษ หรืออ่านบทความต่างๆ ได้คล่องขึ้นมากครับ มันอาจจะต้องใช้เวลาและความอดทนหน่อย แต่ถ้าเราตั้งใจจริง ผมเชื่อว่าทุกคนก็ทำได้แน่นอนครับ ลองเอาวิธีของผมไปปรับใช้กันดูนะครับ ได้ผลยังไงมาแชร์กันบ้างนะ!