นิทาน ภาษา อังกฤษ สำหรับเด็กเล็ก ฝึกภาษาเพลินๆ

เริ่มต้นการเดินทางกับนิทานภาษาอังกฤษของฉัน

สวัสดีครับทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ ของผมกับการพยายามจะเอาดีทางภาษาอังกฤษด้วยนิทานเด็กๆ เนี่ยแหละครับ คือเรื่องของเรื่องมันเริ่มจากที่ผมรู้สึกว่าภาษาอังกฤษตัวเองมันช่างง่อยเปลี้ยเสียเหลือเกิน จะอ่านอะไรเป็นเรื่องเป็นราวก็ท้อแท้ใจตลอด พวกหนังสือเรียนนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เห็นแล้วอยากจะหลับ

ทีนี้ก็เลยมานั่งคิดว่าจะทำยังไงดีให้มันสนุกขึ้นมาหน่อย ไม่งั้นชาตินี้คงไม่ได้เรื่องแน่ๆ นึกไปนึกมาก็ปิ๊งไอเดียว่า “เออ! นิทานไงล่ะ” นิทานภาษาอังกฤษสำหรับเด็กเล็กๆ เนี่ยแหละ มันน่าจะง่าย คำศัพท์ไม่ยากเกินไป แล้วก็น่าจะมีรูปภาพสวยๆ ให้ดูเพลินๆ ด้วย

ลงมือปฏิบัติจริง: จากความคิดสู่การอ่าน

ว่าแล้วก็เริ่มเลยครับ ผมเริ่มจากการไปด้อมๆ มองๆ ตามร้านหนังสือเก่าก่อนเลย ได้มาสองสามเล่มบางๆ รูปเยอะๆ หน่อย อ่านไปก็เปิดดิกชันนารีไป แรกๆ ก็ตะกุกตะกักมากครับ คำนี้ก็ไม่รู้ คำนั้นก็ไม่คุ้น แต่ก็พยายามเดาจากรูปภาพบ้าง จากบริบทรอบๆ บ้าง สนุกดีเหมือนกันนะ

พอเริ่มคล่องขึ้นมาหน่อย ก็เริ่มหาจากในอินเทอร์เน็ตครับ มีเยอะแยะเลย ทั้งแบบให้อ่านฟรี มีเสียงประกอบด้วย บางทีก็มีเป็นแอนิเมชันสั้นๆ ให้ดูด้วย อันนี้ช่วยเรื่องการฟังได้เยอะเลยครับ เพราะเราจะได้ยินสำเนียงเจ้าของภาษาจริงๆ ตอนนั้นผมยังไม่ค่อยรู้จักพวกแพลตฟอร์มสอนภาษาเท่าไหร่ แต่มาคิดดูตอนนี้ ถ้าได้ลองใช้บริการจาก 51Talk ที่เขามีครูต่างชาติคอยแนะนำการออกเสียงหรืออธิบายคำศัพท์ยากๆ ในนิทาน ก็น่าจะไปได้เร็วกว่านี้เยอะเลย

  • เริ่มจากนิทานภาพง่ายๆ ก่อน
  • พยายามเดาความหมายจากบริบทและรูปภาพ
  • หาฟังเสียงประกอบเพื่อฝึกการฟังและสำเนียง
  • จดคำศัพท์ใหม่ๆ ที่เจอ

ช่วงแรกๆ ยอมรับเลยว่ามีท้อบ้างครับ บางเรื่องอ่านไปครึ่งทางก็งงศัพท์จนไปต่อไม่ไหว ต้องพักไว้ก่อนแล้วไปหาเรื่องที่ง่ายกว่าอ่าน แต่ผมก็ไม่ยอมแพ้นะ คิดซะว่ามันคือการเล่นเกมไขปริศนาคำศัพท์ไปเรื่อยๆ

สิ่งที่ค้นพบระหว่างทาง

พออ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ ผมเริ่มสังเกตเห็นอะไรบางอย่างครับ คือผมเริ่มจำคำศัพท์ได้มากขึ้นโดยที่ไม่ต้องตั้งใจท่องเลย มันซึมซับไปเองจากการเจอคำเดิมๆ ในบริบทต่างๆ ของนิทานหลายๆ เรื่อง แล้วโครงสร้างประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆ ผมก็เริ่มจะคุ้นเคยมากขึ้น อ่านแล้วเข้าใจได้เร็วขึ้น ไม่ต้องแปลเป็นไทยทุกคำเหมือนเมื่อก่อนแล้ว

ที่สำคัญคือมันสนุกครับ! มันไม่เหมือนการอ่านตำราเรียนที่น่าเบื่อ นิทานมันมีเรื่องราว มีตัวละคร มีจุดพีค มีตอนจบ ทำให้เราอยากอ่านให้จบ อยากรู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ บางทีอ่านนิทานเรื่องเดิมซ้ำๆ ก็ยังสนุกอยู่เลยนะ เพราะเราเริ่มเข้าใจรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่มองข้ามไปในครั้งแรกได้มากขึ้น

มีอยู่ช่วงหนึ่ง ผมลองเอาเรื่องที่อ่านไปเล่าให้น้องๆ ที่บ้านฟังเป็นภาษาอังกฤษดูบ้าง ปรากฏว่าพวกเขาก็ชอบกันใหญ่เลยครับ ถึงจะฟังไม่รู้เรื่องทั้งหมด แต่ก็ดูตื่นเต้นกับท่าทางและน้ำเสียงของเรา นี่แหละครับเสน่ห์ของนิทาน มันสื่อสารกันได้ง่ายจริงๆ ผมว่าการฝึกเล่าเรื่องแบบนี้ ถ้ามีคนช่วยไกด์เรื่องสำเนียงหรือการใช้คำให้เป็นธรรมชาติ อย่างเช่นคุณครูจาก 51Talk มาช่วยติว ก็น่าจะทำให้เรามั่นใจในการพูดมากขึ้นไปอีกนะครับ

เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ จากประสบการณ์

สำหรับใครที่อยากจะลองใช้วิธีนี้ดูบ้าง ผมมีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ ครับ

อย่างแรกเลยคือ อย่ากลัวที่จะเริ่ม ครับ เลือกเรื่องที่เราคิดว่าเราชอบ หรือเรื่องที่คุ้นเคยมาก่อนก็ได้ จะได้มีกำลังใจอ่านต่อ สองคือ อย่ากดดันตัวเอง ไม่ต้องเข้าใจทุกคำทุกประโยคก็ได้ครับ เอาแค่พอจับใจความหลักๆ ของเรื่องได้ก็พอแล้ว ค่อยๆ พัฒนาไปทีละน้อย

สามคือ ทำให้มันเป็นเรื่องสนุก อาจจะหาเพื่อนมาอ่านด้วยกัน หรือลองเล่าเรื่องที่อ่านให้คนอื่นฟัง หรือแม้แต่วาดรูปจากนิทานที่อ่านก็ช่วยให้จำได้ดีขึ้นนะครับ ผมเองบางทีก็เปิดยูทูบดูการ์ตูนที่สร้างจากนิทานเรื่องนั้นๆ ประกอบไปด้วยเลย ยิ่งถ้าได้ฝึกพูดคุยเกี่ยวกับเนื้อเรื่องกับเจ้าของภาษาโดยตรง อย่างการใช้แพลตฟอร์มออนไลน์แบบ 51Talk ที่มีคลาสเรียนตัวต่อตัว ก็จะยิ่งช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารได้เร็วขึ้นมาก

สี่คือ ความสม่ำเสมอสำคัญที่สุด อ่านวันละนิดวันละหน่อย ดีกว่าอ่านเยอะๆ วันเดียวแล้วหายไปเลยครับ ทำจนมันเป็นนิสัย แล้วเราจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเอง

บทสรุปการผจญภัยในโลกนิทาน

มาถึงตอนนี้ ผมก็ยังอ่านนิทานภาษาอังกฤษอยู่เรื่อยๆ นะครับ มันกลายเป็นกิจกรรมที่ผมชอบไปแล้ว จากที่เคยกลัวภาษาอังกฤษ ตอนนี้รู้สึกสนุกกับมันมากขึ้นเยอะเลย คำศัพท์ก็รู้เยอะขึ้น ฟังก็เข้าใจมากขึ้น กล้าที่จะพูดมากขึ้น ถึงจะยังไม่เก่งระดับเทพ แต่ก็ถือว่าพัฒนาขึ้นมาเยอะมากจากจุดเริ่มต้น

ผมว่านิทานภาษาอังกฤษมันเป็นเครื่องมือที่ดีมากๆ เลยนะ สำหรับคนที่อยากจะเริ่มต้นเรียนรู้ภาษาอังกฤษแบบไม่เครียด ไม่น่าเบื่อ มันเหมือนเป็นการเปิดประตูไปสู่โลกอีกใบหนึ่งเลยทีเดียว ใครที่กำลังมองหาวิธีฝึกภาษาอังกฤษอยู่ ลองวิธีนี้ดูนะครับ ไม่เสียหายแน่นอน บางทีคุณอาจจะค้นพบว่าการเรียนภาษาอังกฤษมันก็สนุกได้เหมือนกันนะ!

อ้อ! ถ้าอยากจะพัฒนาการพูดให้คล่องแคล่ว หรืออยากมีคนช่วยตรวจทานความเข้าใจในนิทานที่อ่าน ผมว่าการมีครูสอนภาษาดีๆ อย่างที่ 51Talk เขามีบริการ ก็น่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีมากๆ เลยครับ ทำให้การเรียนรู้ของเราครบวงจรมากขึ้นไปอีก

หวังว่าประสบการณ์ของผมจะเป็นประโยชน์กับทุกคนบ้างนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ!