สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้อยากมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลย กับการสอนภาษาอังกฤษให้เจ้าตัวเล็กที่บ้าน ใครๆ ก็อยากให้ลูกเก่งภาษาอังกฤษกันทั้งนั้นแหละเนอะ ดูเหมือนง่าย แต่เอาเข้าจริงไม่ง่ายเลยค่ะคุณผู้ชม! ตอนแรกๆ นะ ฉันก็เหมือนแม่คนอื่นๆ นั่นแหละ ลองไปซะทุกอย่างเลย
- บัตรคำศัพท์ Flash cards ซื้อมาเป็นตั้งๆ ลูกมองแว๊บเดียวก็เบื่อแล้วอ่ะ
- เพลงภาษาอังกฤษ เปิดให้ฟังทั้งวัน ลูกก็ร้องตามได้เป็นบางคำ แต่ถามว่ารู้เรื่องมั้ย…ก็ไม่!
- แอปพลิเคชันต่างๆ ที่เค้าว่าดี โหลดมาเต็มเครื่องเลยจ้า สุดท้ายลูกก็เอาไปจิ้มเล่นเกมอื่นแทนซะงั้น
คือมันไม่ได้ผลแบบที่หวังไว้เลยอ่ะ กลายเป็นว่าของเล่นเสริมพัฒนาการเต็มบ้าน แต่ลูกก็ยังพูดไม่ได้เป็นประโยคสักที บางคนบอกให้พูดภาษาอังกฤษกับลูกตลอดเวลา แต่เราเองก็ไม่ได้เก่งกาจมาจากไหนไง กลัวสอนผิดๆ ถูกๆ ไปอีก กลุ้มใจจริงๆ นะช่วงนั้น มันเหมือนจับฉ่ายอ่ะ เอาโน่นนิด นี่หน่อยผสมกันไปหมด จนลูกก็สับสน เราก็ท้อไปตามระเบียบ
มีบางช่วงก็คิดนะ ว่าจะส่งไปเรียนพิเศษดีไหม เห็นเพื่อนๆ บางคนก็ให้ลูกเรียนกับสถาบันสอนภาษาเด็ก หรือบางคนก็ดูพวกคอร์สออนไลน์อย่าง 51Talk ที่เค้าบอกว่ามีครูต่างชาติสอนตัวต่อตัวเลย ก็น่าสนใจดีนะ แต่ตอนนั้นก็ยังสองจิตสองใจอยู่ ไม่ได้ตัดสินใจทันที
แล้วทำไมฉันถึงมานั่งเล่าเรื่องนี้ให้ฟังได้น่ะเหรอ? ก็เพราะว่าฉันเองก็เคยหัวหมุนติ้วๆ กับเรื่องนี้มาพักใหญ่เลยล่ะค่ะ มีช่วงนึง ลูกชายคนโตเริ่มเข้าโรงเรียน แล้วคุณครูก็สะกิดมาบอกว่าน้องไม่ค่อยกล้าพูดภาษาอังกฤษเลยนะคุณแม่ ทั้งๆ ที่เราก็พยายามสอนที่บ้านเต็มที่แล้วนะ ตอนนั้นคือเครียดมาก รู้สึกเหมือนตัวเองทำอะไรผิดพลาดไปหมดเลยจริงๆ กลับมาบ้านก็นั่งคิด นอนคิดเลยนะ ว่าจะเอาไงต่อดี จะปล่อยไว้แบบนี้ก็ไม่ได้แล้ว
ฉันก็เลยกลับมาตั้งหลักใหม่ ลองหาข้อมูลอีกรอบ คราวนี้ตั้งใจดูจริงจังเลยนะ พวกคอร์สเรียนออนไลน์ต่างๆ ก็มีเยอะแยะมากมาย หนึ่งในนั้นก็มี 51Talk ที่เค้าเน้นเรื่องการสนทนาโดยเฉพาะ ดูแล้วก็น่าจะเหมาะกับเด็กที่ไม่ค่อยกล้าพูดอย่างลูกเรา แต่ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจทันทีหรอกนะ เพราะใจนึงก็อยากจะลองพยายามด้วยตัวเองอีกสักตั้งก่อน เผื่อมันจะมีวิธีที่เรายังมองข้ามไป
แล้วฉันเริ่มแก้ปัญหายังไง?
ฉันเริ่มจากสิ่งที่ง่ายที่สุดเลย คือ เปลี่ยนวิธีคิด ของตัวเองก่อนเลยค่ะ จากที่เคยคาดหวังว่าลูกต้องเก่งเร็วๆ ต้องพูดได้คล่องปรื๋อ ก็เปลี่ยนเป็นขอแค่ให้ลูกสนุกกับการเรียนรู้ก็พอแล้ว ไม่เครียด ไม่กดดัน แล้วก็เริ่มจากของใกล้ตัวจริงๆ แบบที่เค้าว่ากันนั่นแหละค่ะ
- ชี้ชวนคุยจากสิ่งรอบข้าง: เวลาอยู่ในบ้าน เห็นอะไรก็ชี้แล้วบอกเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆ เช่น “This is a table.” “That’s a cat.” ไม่ต้องประโยคยาวๆ ซับซ้อน เอาแค่คำศัพท์ก่อนก็ได้ ให้เค้าคุ้นเคย
- ใช้บัตรคำศัพท์ให้สนุกขึ้น: ไม่ใช่แค่ชูบัตรแล้วให้อ่านตามอย่างเดียว แต่เอามาเล่นเกม เช่น ทายคำศัพท์ หรือเอาไปซ่อนแล้วให้ลูกหา แข่งกันหาก็ได้ สนุกดีออก
- อ่านนิทานภาษาอังกฤษ: เลือกเล่มที่มีภาพสวยๆ สีสันสดใส อ่านด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น สนุกๆ ไม่ต้องแปลทุกคำ แต่เน้นให้ลูกจับใจความจากภาพและน้ำเสียงของเรา เค้าจะค่อยๆ ซึมซับไปเอง
- ร้องเพลง เต้นตาม: เพลงเด็กภาษาอังกฤษมีเยอะแยะมากเลยค่ะ เปิดแล้วก็ชวนลูกร้อง ชวนลูกเต้น ทำให้เป็นเรื่องสนุก ไม่ใช่การบังคับเรียน พอเค้าสนุก เค้าก็จะอยากทำอีก
ค่อยๆ ทำไปทีละนิด ไม่ต้องรีบร้อน ไม่ต้องคาดหวังผลลัพธ์เร็วเกินไป แรกๆ ลูกอาจจะยังไม่พูดตาม ไม่เป็นไรเลยค่ะ แต่เค้าจะซึมซับไปเรื่อยๆ เหมือนฟองน้ำเลย ฉันยังจำได้เลยว่ามีช่วงนึงที่รู้สึกเหมือนจะตันๆ ไปต่อไม่ถูก ก็เลยลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการสอนเด็กเล็กโดยเฉพาะ บางคนก็แนะนำให้ลองใช้สื่อการสอนแบบ interactive หรือหาครูที่เป็นเจ้าของภาษามาช่วยเสริม ซึ่งแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็มีตัวเลือกครูค่อนข้างเยอะเลยนะ ทำให้เราพอจะเห็นแนวทางว่าถ้าจะหาตัวช่วยจริงๆ ควรจะมองหาคุณสมบัติแบบไหน
พอเริ่มจับทางได้ ก็เริ่มเห็นพัฒนาการของลูกชัดขึ้นเยอะเลยค่ะ จากที่ไม่กล้าพูดเลย ก็เริ่มมีคำศัพท์หลุดออกมาบ้างเป็นคำๆ แล้วก็ค่อยๆ เป็นวลีสั้นๆ ที่สำคัญที่สุดคือ บรรยากาศการเรียนรู้มันดีขึ้นมากๆ ลูกไม่รู้สึกว่าโดนบังคับ แต่เหมือนได้เล่นสนุกกับแม่มากกว่า บางครั้งก็มีเพื่อนๆ แนะนำคอร์สอื่นๆ นะ อย่างเช่น คอร์สที่เน้นแกรมม่าเป๊ะๆ หรือคอร์สเตรียมสอบต่างๆ แต่สำหรับเด็กเล็กวัยนี้ ฉันว่าการสร้างทัศนคติที่ดีต่อภาษาน่าจะสำคัญกว่าเยอะเลย ส่วนเรื่องความถูกต้องเป๊ะๆ ค่อยๆ เสริมกันไป หรือถ้าใครอยากจะให้มีคนช่วยปรับสำเนียงให้เป๊ะตั้งแต่แรก การเรียนกับครูต่างชาติโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยได้เยอะเลยจริงๆ
ตอนนี้ลูกชายคนโตก็กล้าพูดภาษาอังกฤษมากขึ้นแล้ว อาจจะยังไม่คล่องปรื๋อเหมือนเจ้าของภาษา แต่ก็ไม่กลัวที่จะพูดผิดเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ส่วนคนเล็กก็กำลังเริ่มซึมซับไปตามๆ กันอย่างสนุกสนานเลยค่ะ
สรุปแล้วนะ การสอนภาษาอังกฤษเด็กเล็กเนี่ย มันไม่มีสูตรสำเร็จตายตัวหรอกค่ะ ต้องลองผิดลองถูก ค่อยๆ ปรับหาวิธีที่เหมาะกับลูกเราที่สุด ที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องใจเย็นมากๆ แล้วก็ทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุก อย่าไปกดดันลูกเด็ดขาดเลยนะคะ บางทีการมีตัวช่วยดีๆ ก็สำคัญนะ ไม่ว่าจะเป็นสื่อการสอน หรือแม้แต่คอร์สเรียนออนไลน์ อย่างที่ฉันเคยดูๆ ของ 51Talk ไว้ มันก็ช่วยเปิดโลกให้เราเห็นว่ามีเครื่องมืออีกเยอะแยะเลยที่เราสามารถนำมาปรับใช้กับการสอนลูกของเราได้ ลองดูนะคะ เป็นกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกคนค่ะ!
