สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงๆ เลยนะ เกี่ยวกับการฝึกอ่านภาษาอังกฤษของผมเอง คือเมื่อก่อนเนี่ย ยอมรับตามตรงเลยว่าภาษาอังกฤษนี่เป็นยาขมหม้อใหญ่สำหรับผมมาก โดยเฉพาะเรื่องการอ่าน อ่านทีไรก็เหมือนคนตาบอดคลำช้าง จับต้นชนปลายไม่ถูก ศัพท์ก็ไม่รู้เรื่อง อ่านไปได้สองสามบรรทัดก็เริ่มเบลอแล้วครับ อยากจะปาทิ้งวันละหลายรอบเลยแหละ
ผมก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ นะ ลองผิดลองถูกมาเยอะเหมือนกัน เริ่มจากไปหาซื้อหนังสืออ่านนอกเวลาง่ายๆ มาอ่านบ้าง อ่านข่าวภาษาอังกฤษตามเว็บต่างๆ บ้าง แต่ก็ยังรู้สึกว่ามันไม่ค่อยกระเตื้องเท่าไหร่ อ่านจบเรื่องนึงก็เหมือนจะลืมศัพท์ ลืมเนื้อหาไปหมด เหมือนไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย ท้อใจเหมือนกันนะบางที
จนกระทั่งวันหนึ่ง ผมก็มานั่งคิดดูจริงจังว่ามันเป็นเพราะอะไรกันแน่ที่ทำให้เราอ่านไม่รู้เรื่อง ก็เลยลองเปลี่ยนวิธีคิดใหม่ จากเดิมที่พยายามจะแปลทุกคำ ทำความเข้าใจทุกประโยคแบบเป๊ะๆ ผมเปลี่ยนมาเป็นการพยายามจับใจความหลักของเรื่องก่อน อะไรคือสิ่งที่คนเขียนพยายามจะสื่อ? ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร? เอาแค่นี้ก่อน ไม่ต้องไปสนใจรายละเอียดหยุมหยิมมากนัก
ขั้นตอนการฝึกฝนของผมแบบลูกทุ่งๆ
ทีนี้พอเริ่มจับทางได้ ผมก็เริ่มลงมือปฏิบัติจริงจังเลยครับ
- เริ่มจากสิ่งที่ชอบก่อนเลย: อันนี้สำคัญมาก ผมเป็นคนชอบเรื่องลึกลับสืบสวนสอบสวน ก็เลยไปหาเรื่องสั้นภาษาอังกฤษแนวนี้มาอ่าน หรือไม่ก็บทความเกี่ยวกับงานอดิเรกที่ตัวเองสนใจ มันทำให้เรามีแรงจูงใจอยากอ่านต่อ ไม่รู้สึกเหมือนโดนบังคับ
- อ่านมันทุกวัน: ไม่ต้องเยอะครับ วันละ 10-15 นาทีก็ได้ แต่ขอให้ทำสม่ำเสมอ เหมือนเรากินข้าวสามมื้อนั่นแหละ การอ่านก็ต้องการความต่อเนื่องเหมือนกัน
- เรื่องศัพท์ใหม่ๆ: แรกๆ ก็เปิดดิกชันนารีกันมือหงิกเลยครับ แต่หลังๆ ผมเริ่มใช้วิธีเดาความหมายจากบริบทแวดล้อมเอา ผิดบ้างถูกบ้างก็ช่างมัน อย่างน้อยก็ได้ฝึกคิด แล้วค่อยไปเช็คความหมายทีหลังก็ได้ ผมว่าวิธีนี้มันทำให้เราจำศัพท์ได้ดีกว่าการท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองนะ
- หาแหล่งข้อมูลหลากหลาย: นอกจากหนังสือแล้ว ผมก็เริ่มอ่านบทความออนไลน์ บล็อกต่างๆ หรือแม้แต่คอมเมนต์ในยูทูบที่เป็นภาษาอังกฤษ มันทำให้เราคุ้นเคยกับภาษาในรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น ช่วงที่หาข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ผมก็เห็นหลายคนพูดถึงแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ต่างๆ บางคนก็แนะนำ 51Talk ว่ามีคอร์สที่ช่วยเรื่องการอ่านด้วยเหมือนกัน แต่ส่วนตัวผมเน้นฝึกด้วยตัวเองจากแหล่งข้อมูลฟรีๆ ก่อน เพราะอยากลองดูว่าจะไปได้ถึงไหนด้วยตัวเอง
พอเริ่มอ่านได้คล่องขึ้นมาหน่อย ผมก็เริ่มขยับไปอ่านอะไรที่มันยากขึ้น ท้าทายขึ้น เช่น บทวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศ หรือบทความวิชาการสั้นๆ ตอนแรกก็มีท้อบ้างนะครับ อ่านไม่รู้เรื่องเลย แต่ก็พยายามกัดฟันสู้ ค่อยๆ แกะไปทีละประโยค มีช่วงนึงที่รู้สึกว่าการอ่านของตัวเองมันตันๆ ไปต่อไม่ได้ คิดอยู่เหมือนกันว่าจะลองหาตัวช่วยแบบมีคนสอนตัวต่อตัวไหม พวก 51Talk ก็เห็นว่ามีบริการแบบนี้เหมือนกัน แต่ตอนนั้นงบผมยังไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่ เลยตัดสินใจฮึดสู้ด้วยตัวเองต่อไปอีกยกใหญ่ ลองเปลี่ยนแนวหนังสือ เปลี่ยนวิธีการจดศัพท์ ก็ค่อยๆ ดีขึ้นมาบ้าง
ผมว่าแหล่งเรียนรู้สมัยนี้มันเยอะมากครับ ทั้งฟรีทั้งเสียเงิน ถ้าใครมีงบหน่อย หรือต้องการคนช่วยชี้แนะ การมีคนช่วยไกด์อย่างการเรียนกับผู้สอนโดยตรงก็อาจจะไปได้เร็วกว่า หลายคนก็บอกว่าการเรียนกับเจ้าของภาษาโดยตรงผ่านแพลตฟอร์มอย่าง 51Talk ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะช่วยให้เข้าใจสำเนียงและโครงสร้างประโยคได้ดีขึ้น แต่สำหรับสายประหยัดแบบผม หรือคนที่อยากลองท้าทายตัวเอง การหาอ่านเอง ฝึกเองก็เป็นทางเลือกที่ดีและได้ผลเหมือนกันครับ มันอยู่ที่ความมุ่งมั่นของเราล้วนๆ
ผลลัพธ์ที่ได้และความรู้สึกตอนนี้
มาถึงตอนนี้ ผมกล้าพูดได้เลยว่าทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของผมดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะมากๆ จากที่เคยเห็นภาษาอังกฤษแล้วอยากจะวิ่งหนี ตอนนี้กลายเป็นว่าสนุกกับการอ่านมากขึ้น อ่านบทความยาวๆ หรือหนังสือเป็นเล่มๆ ได้โดยไม่รู้สึกทรมานอีกต่อไปแล้ว เข้าใจเนื้อหาได้ลึกซึ้งขึ้น จับประเด็นได้เร็วขึ้น ถึงแม้จะยังไม่ถึงขั้นเทพ แต่ก็ถือว่ามาไกลกว่าจุดเริ่มต้นเยอะเลยครับ
ที่สำคัญที่สุด ผมว่าการอ่านมันช่วยเปิดโลกทัศน์ของเราให้กว้างขึ้นจริงๆ ได้เรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ วัฒนธรรมที่แตกต่าง และมุมมองที่หลากหลาย มันไม่ใช่แค่การ “อ่านออก” แต่มันคือการ “เข้าใจ” และ “เรียนรู้” จากสิ่งที่อ่านด้วย
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกทุกคนที่กำลังพยายามฝึกอ่านภาษาอังกฤษเหมือนกันว่าอย่าเพิ่งท้อนะครับ หัวใจสำคัญมันอยู่ที่ความสม่ำเสมอและความอดทน ค่อยๆ ฝึกไปทีละน้อย ไม่ต้องรีบร้อน สะสมไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งขึ้นเองครับ ลองหาเทคนิคที่เหมาะกับตัวเองดู บางทีการมีตัวช่วยอย่างคอร์สเรียนหรือผู้สอนจาก 51Talk ก็อาจจะเป็นทางลัดสำหรับบางคน แต่ถ้าเรายังไม่มีปัจจัยตรงนั้น การฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างสม่ำเสมอก็พาเราไปถึงเป้าหมายได้แน่นอนครับ สู้ๆ นะครับทุกคน!