ฝึก พูด อังกฤษ ตัวต่อตัว เก่งเร็วขึ้นเยอะ ไม่ต้องกลัวพูดผิด

เอาล่ะทุกคน วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ตรงเลยกับการฝึกพูดอังกฤษแบบตัวต่อตัวของผมเอง บอกเลยว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ลองผิดลองถูกมาเยอะเหมือนกัน

ทำไมต้องตัวต่อตัว? ลองมาสารพัดวิธีแล้ว!

ก่อนจะตัดสินใจหาคนมานั่งคุยด้วยแบบจริงจังเนี่ย ผมก็เหมือนหลายๆ คนนั่นแหละครับ

  • เรียนในห้องเรียนกลุ่ม: คนเยอะ ไม่กล้าพูด กลัวพูดผิดแล้วเพื่อนขำ ครูคนเดียวก็ดูแลไม่ทั่วถึง
  • ดูหนังฟังเพลง: เอ้อ อันนี้เพลินดี ได้ศัพท์บ้าง แต่พอจะเอามาพูดเอง ลิ้นมันแข็งไปหมด นึกคำไม่ออก
  • แอพฝึกภาษา: ก็ดีนะ มีให้ฝึกเยอะแยะ แต่สุดท้ายมันก็เหมือนคุยกับบอท ไม่ได้โต้ตอบแบบคนจริงๆ
  • พูดกับตัวเองหน้ากระจก: อันนี้ก็ทำนะ แต่บางทีก็ไม่รู้ว่าที่เราพูดไปมันถูกหรือผิด ไม่มีคนคอยแก้ให้

สรุปคือ มันก็ช่วยได้บ้างแหละ แต่มันไม่สุดไง พอต้องใช้จริงในสถานการณ์ที่มันต้องสื่อสารจริงๆ จังๆ ผมก็ยังอ้ำๆ อึ้งๆ พูดติดๆ ขัดๆ เหมือนเดิมเป๊ะ มันน่าหงุดหงิดตัวเองจริงๆ นะ

ฝึก พูด อังกฤษ ตัวต่อตัว เก่งเร็วขึ้นเยอะ ไม่ต้องกลัวพูดผิด

เริ่มภารกิจตามล่าหาคู่ฝึก!

พอคิดได้ว่าต้องหาคนมาฝึกด้วยแบบตัวต่อตัวนี่แหละเวิร์คสุด ก็เริ่มลงมือหาเลยครับ ตอนแรกก็คิดว่าจะง่ายนะ แต่เอาเข้าจริง ไม่ง่ายเลย! บางคนก็เป็นครูฝรั่งเลยนะ แต่ค่าสอนนี่สิ โหดเอาเรื่อง ชั่วโมงนึงกระเป๋าเบาไปเยอะ บางคนเป็นคนไทยที่เก่งอังกฤษ ราคาก็พอรับได้ แต่พอได้ลองคุยดู เหมือนเขาไม่ได้เน้นแก้แกรมม่าหรือการออกเสียงให้เราเท่าไหร่ เน้นคุยสนุกๆ ไปเรื่อย ซึ่งมันก็ดีนะ แต่ผมอยากได้คนที่ช่วยจี้จุดที่เราพลาดจริงๆ มากกว่า

มีอยู่ช่วงนึง ผมลองหาตามกลุ่มในเน็ตนี่แหละ ก็เจอหลายคนนะที่สนใจแลกเปลี่ยนภาษา แต่ปัญหาคือ บางทีเวลาก็ไม่ตรงกันบ้าง คุยกันไม่กี่ครั้งก็หายไปบ้าง หรือบางทีสไตล์การคุยมันไม่คลิกกัน คือมันต้องหาคนที่เคมีตรงกันด้วยนะ ไม่งั้นมันจะเกร็งๆ ไม่กล้าพูดเต็มที่

ประสบการณ์จริงกับการฝึกตัวต่อตัว

สุดท้ายผมก็เจอคนที่โอเคครับ เป็นพี่คนไทยที่เคยไปเรียนต่างประเทศมา สำเนียงดี แล้วก็ใจเย็นมากๆ ยอมรับเลยว่าครั้งแรกๆ ที่เริ่มฝึกนี่ โคตรเกร็ง! กลัวไปหมด กลัวพูดผิด กลัวเขาไม่เข้าใจ กลัวสำเนียงตลก แต่พี่เขาก็จะคอยบอกว่า “ไม่เป็นไร ผิดก็แก้ พูดมาเลย” ประโยคนี้แหละที่ทำให้ผมเริ่มผ่อนคลายขึ้น

ช่วงแรกๆ ก็จะเน้นคุยเรื่องทั่วๆ ไปก่อนครับ เรื่องงานอดิเรก เรื่องหนังที่ดู เรื่องข่าวสารประจำวัน พอเริ่มคุ้นเคยกันมากขึ้น ก็จะเริ่มคุยเรื่องที่มันยากขึ้น ซับซ้อนขึ้น พี่เขาก็จะคอยแก้ให้ตลอด ทั้งเรื่องแกรมม่า การเรียงประโยค คำศัพท์ที่เหมาะสม หรือแม้กระทั่งการออกเสียง บางคำผมก็ออกเสียงผิดมาตลอดชีวิต เพิ่งจะมารู้ตอนนี้นี่แหละ ฮ่าๆๆ

สิ่งที่ผมชอบมาก คือการที่เราได้โต้ตอบกันทันที เวลาเราพูดอะไรผิดไป เขาก็จะแก้ให้เลย หรือถ้าเรานึกคำไม่ออก เขาก็จะช่วยไกด์ให้ มันทำให้เราจำได้ดีกว่าการไปนั่งท่องจำเองเยอะเลยครับ แล้วการที่ได้ใช้ภาษาจริงๆ ในการสื่อสาร มันทำให้สมองเรามันคุ้นเคยกับการคิดเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้นด้วยนะ

ฝึก พูด อังกฤษ ตัวต่อตัว เก่งเร็วขึ้นเยอะ ไม่ต้องกลัวพูดผิด

แน่นอนว่ามันก็มีช่วงที่ท้อบ้างเหมือนกัน บางวันรู้สึกว่าทำไมเรายังพูดติดๆ ขัดๆ อยู่เลยวะ ทำไมยังนึกคำศัพท์ง่ายๆ ไม่ออก แต่ก็พยายามบอกตัวเองว่ามันต้องใช้เวลา ไม่มีใครเก่งได้ในวันเดียวหรอก

จุดเปลี่ยนเล็กๆ ที่จำไม่ลืม

มีอยู่ครั้งนึงครับ ผมต้องไปพรีเซนต์งานเล็กๆ น้อยๆ ให้กับลูกค้าต่างชาติ ปกติถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ ผมคงจะท่องสคริปต์ไปแบบนกแก้วนกขุนทอง แล้วก็คงจะประหม่าจนพูดอะไรแทบไม่ออก แต่วันนั้น ผมรู้สึกว่าตัวเองมั่นใจขึ้นเยอะ ถึงแม้จะไม่ได้พูดคล่องปร๋อเหมือนเจ้าของภาษา แต่ผมสามารถอธิบายสิ่งที่ผมต้องการจะสื่อออกไปได้ คุยโต้ตอบกับเขาได้รู้เรื่อง ถึงจะมีติดขัดบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมคือมันดีขึ้นกว่าเดิมมากๆ วันนั้นกลับมานี่รู้สึกดีใจกับตัวเองสุดๆ เลยครับ มันเหมือนเป็นรางวัลเล็กๆ ที่ทำให้เรามีกำลังใจฝึกต่อไป

ผลลัพธ์ที่ได้ และสิ่งที่อยากบอกต่อ

ตอนนี้ผมก็ยังฝึกตัวต่อตัวอยู่เรื่อยๆ นะครับ ไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่งเทพอะไรขนาดนั้นแล้ว แต่ที่แน่ๆ คือ ผมกล้าพูดมากขึ้นเยอะมาก ความกลัวมันลดลงไปเยอะเลยครับ ฟังก็เข้าใจมากขึ้น กล้าที่จะเริ่มบทสนทนากับชาวต่างชาติมากขึ้น ถึงแม้จะยังพูดผิดพูดถูกอยู่บ้าง แต่มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่อีกต่อไปแล้ว

สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีฝึกพูดภาษาอังกฤษอยู่ ผมว่าการฝึกแบบตัวต่อตัวนี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ นะครับ มันอาจจะต้องลงทุนลงแรงหน่อยในช่วงแรก ทั้งเรื่องการหาคนฝึก ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย (ถ้ามี) แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับมามันคุ้มค่าจริงๆ ครับ สำคัญที่สุดคือต้องกล้าที่จะเริ่ม และให้เวลากับมันครับ สู้ๆ ครับทุกคน!